บินกับ JAL Dynamic Package ตามไปดูหนุ่มสาวโตเกียว หลังเลิกงานแล้วเขาไปเดทที่ไหนกันนะ?

พอเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศที่ญี่ปุ่นก็เริ่มเย็นสบายขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเหมาะที่คู่รักเขาจะจูงมือกันออกไปเดทกับท่ามกลางอากาศดีๆ แบบนี้ แต่สำหรับหนุ่มสาวโตเกียว ชาวเมืองกรุงที่แสนวุ่นวาย งานก็หนัก เลิกก็มืดขนาดนี้ คงจะหาเวลาออกไปเที่ยวกันไกลๆ ได้ยาก การเที่ยวใกล้ๆ ในโตเกียวเลยกลายเป็นทางเลือกอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้นวันนี้ Haruna_SP จะมาแนะนำ 7 สถานที่สุดโรแมนติกในยามค่ำคืนที่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นเขาไปเดทกันมาฝากค่ะ (ก็เผื่อเพื่อนๆ คนไหนอยากจะลองเอาไปจัดทริปสวีทกับแฟนกันบ้าง อิอิ)

1.Mori Art Museum / Roppongi

ที่แรกที่จะแนะนำอยู่ที่ย่านรปปงหงิค่ะ หากพูดถึงที่นี่หลายคนก็คงจะนึกถึงเจ้าหุ่นแมงมุมยักษ์กลางลานรปปงหงิ ฮิลส์ใช่ไหมล่ะคะ แต่ที่น่ะมี Mori Art Museum (森美術館) ด้วย เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงศิลปะที่จะเปลี่ยนการจัดแสดงไปเรื่อยๆ และแต่ละอย่างก็น่าสนใจไม่น้อย สามารถเดินจับมือแฟนเดินชมงานกันไป แชะรูปเก๋ๆ กันไปก็ยังได้ เหมาะมากๆ สำหรับคู่รักที่ชอบงานศิลปะ และด้านบนตึกยังเป็นจุดชมวิวมหานครโตเกียวยามค่ำคืนที่สวยสุดๆ อีกต่างหาก นอกจากนั้นแล้ว หากชมงานกันเสร็จแล้วท้องหิวขึ้นมาล่ะก็ ที่นี่เขาก็มีร้านอาหารหลากหลายให้เลือกพาแฟนมาดินเนอร์กันด้วยล่ะค่ะ

ที่ตั้ง : 6 Chome-10-1 Roppongi, Minato, Tokyo 106-6108

วิธีเดินทาง : รถไฟ Tokyo Metro Hibiya Line (日比谷線) ลงสถานี Roppongi (六本木駅)

โทร : +81357778600

เว็ปไซต์ : http://www.mori.art.museum/en/

2. Sumida Aquarium / Oshiage

ที่ต่อมานี่เหมาะสำหรับคู่รักรักสัตว์ค่ะ นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุมิดะ อยู่ที่ Oshiage Skytree Town  พอถึงเวลา 6 โมงเย็นปุ๊ป ไฟในอาคารก็จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า และโชว์การแสดง Blue night aquarium ก็จะเริ่มขึ้นพร้อมกับเปิดเพลงคลอเบาๆ คู่รักก็จะได้พากันชมเหล่าปลาน้อยใหญ่ในตู้กระจกในอีกอารมณ์หนึ่งต่างจากตอนกลางวัน

นอกจากนี้ภายในอควอเรียมก็ยังมี Penguin Café ให้ไปนั่งจิบค็อกเทลแสนเก๋ อย่างบลูไนท์คอกเทล ที่มีหลอด LED เปิดไฟส่องแสงออกมาได้ด้วย เรียกได้ว่าโรแมนติกแบบไม่เหมือนใครจริงๆ ค่ะ

 

ที่ตั้ง : 5-6F, TOKYO SKYTREE TOWN Solamachi

1-2, Oshiage 1-chome, Sumida Ward, Tokyo 131-0045

วิธีเดินทาง : รถไฟสาย Tobu Skytree Line ลงที่สถานี Tokyo Skytree Station

รถไฟ Tokyo Metro สาย  Hanzomon Line หรือ Keisei Oshiage Line หรือ Toei Asakusa Line ลงที่สถานี  Oshiage Station (SKYTREE)

โทร : +81-3-5619-1821

เว็ปไซต์ : http://www.sumida-aquarium.com/en/index.html

 

3.Bunkamura the Museum / Shibuya

ที่ต่อมาที่จะนำเสนอก็คือ บุงคะมุระ เดอะมิวเซียม ที่อยู่ใจกลางชิบุย่านี่เอง งานแสดงศิลปะของที่นี่จะเป็นแนวผสมผสานวัฒนธรรมแบบ Multiculture ซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ คู่รักคู่ไหนเบื่อการช้อปปิ้งในชิบุย่าแล้ว ลองมาชมงานศิลปะเก๋ๆ ที่นี่ได้ ปกติแล้ววันจันทร์-พฤหัส จะเปิดให้เขาชมตั้งแต่ 10.00-18.00 น. เท่านั้น แต่ในวันศุกร์และเสาร์ จะขยายเวลาเปิดถึง 21.00 น. เลย (เข้ารอบสุดท้าย 20.00 น.)

นอกจากนี้ภายในงานยังมีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะด้วย คู่รักสามารถเลือกช้อปกลับไปให้คิดถึงตอนมาที่นี่กันสองต่อสองก็ได้นะคะ

4.Orchard Hall (Bunkamura) / Shibuya

เรายังคงอยู่ในบุงคะมุระแห่งชิบุย่ากันอยู่ค่ะ แต่คราวนี้เราจะพามาที่ โรงละคร ออร์ชาร์ด ฮอลล์ ค่ะ ที่นี่มีดียังไง ที่นี่เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการมาเดทท่ามกลางเสียงดนตรีแสนไพเราะ เพราะเขาจะจัดการแสดงเกี่ยวกับดนตรีที่หมุนเวียนมาให้ฟังอยู่ตลอดทั้งวงน้อย วงใหญ่ ละครเวที หรือการแสดงของศิลปินที่หาชมได้ยากจะมารวมอยู่ที่นี่ค่ะ แต่การจะเข้าไปชมได้นั้น จำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้านิดนึงค่า

นอกจากนี้ภายในบุงคะมุระยังมีการจัดแสดงงานศิลปะสมัยใหม่หลายประเภท เช่น แฟชั่นอาร์ท และอื่นๆ อีกมากมายให้เดินชมกัน หากคู่ไหนวางแผนมาเดทที่ชิบุย่าก็อย่าลืมแวะมาที่นี่กันด้วยนะคะ

ที่ตั้ง : 2-24-1 Dogenzaka, Shibuya-ku,Tokyo 150-8507

วิธีเดินทาง : จากสถานี Shibuya Station ทางออก Hachiko Exit เดินต่ออีก 7 นาที

โทร : +813-3477-9111

เว็ปไซต์ : http://www.bunkamura.co.jp/english/index.html

5.Manyo no yu / Minami Machida

ที่ต่อมาคู่ไหนรักการทำสปาหรือแช่ออนเซ็นจะต้องชอบแน่นอน เพราะเราจะพาไปแช่ออนเซ็น ใกล้ๆ แค่ในโตเกียวที่โรงแรม Tokyo Yugawara Onsen Manyo no Yu Machida (東京湯河原温泉 万葉の湯 町田館) ที่นี่นอกจากจะเป็นโรงแรมให้เข้าพักแล้วยังเปิดบริการให้แช่ออนเซ็นต่างหากอีกด้วย ชั้นดาดฟ้าจะเป็นที่แช่ออนเซ็นเท้าท่ามกลางบรรยากาศแบบสวนญี่ปุ่น พอฟ้ามืดก็จะเปิดไฟประดับให้ด้วย โรแมนติกมากๆ เลยค่ะ

นอกจากออนเซ็นเท้า ที่นี่ยังมีอีกหลายคอร์สให้เลือก เช่น เช่าอ่างแช่ออนเซ็นแบบส่วนตัวในอ่างไม้ไผ่ ท่ามกลางธรรมชาติ และหากแช่ออนเซ็นเสร็จแล้วที่นี่ก็มีร้านอาหารด้วยค่ะ จบวันด้วยดินเนอร์อร่อยๆ และเบียร์สักแก้วไปด้วยกันก็น่าจะเป็นเดทที่เพอร์เฟคใช่ไหมล่ะคะ

ที่ตั้ง : 7-3-1 Tsuruma, Machida, Tokyo 194-0004, JAPAN

วิธีเดินทาง : รถไฟสาย Tokyo Metro Den-en toshi Line (田園都市線) ลงที่สถานี Minami-Machida Station(南町田駅) บริเวณหน้าสถานีมีรถชัตเตอร์บัสของโรงแรมรับส่งฟรี

โทร : +81 42-788-4126

เว็ปไซต์ : http://www.manyo.co.jp/machida/eng/

6.Aqua Park Shinagawa / Shinagawa

ชินากาว่า อควอพาร์ค อควอเรียมยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในโตเกียวจนขึ้นชื่อว่าเป็น date spot ยอดฮิตของหนุ่มสาวญี่ปุ่น แถมยังเปิดถึง 4 ทุ่มแหน่ะ คู่ไหนเลิกจากที่ทำงานดึกก็ยังแวะมาเดทกันที่นี่ได้

ด้วยบรรยากาศที่แตกต่างกันของตอนกลางวันและตอนกลางคืน ทำให้ที่นี่ไม่ใช่แค่อควอเรียมธรรมดา เพราะเขาจัดเต็มทั้งแสง สี เสียง สร้างความสนุกในการชมปลามากขึ้นเป็นกอง นอกจากนี้ยังมีร้านบาร์เล็กๆ ให้เข้ามานั่งกันเพลินๆ ท่ามกลางบรรยากาศเหมือนเข้าไปอยู่ในตู้ปลาอีกด้วยค่ะ

ที่ตั้ง : 4-10-30 Takanawa, Minato-ku, Tokyo 108-8611

การเดินทาง : รถไฟ JR ลงที่สถานี Shinagawa Station (品川駅) ออกทางออก Takanawa Exit (高輪口) เดินต่อ 2 นาที

โทร : +81-3-5421-1111

เว็ปไซต์ : http://www.aqua-park.jp/aqua/en/

7.T4 Tokyo / Shibuya

และที่สุดท้ายที่จะพาทุกคนมาก็คือ ร้านอาหารคอนเซ็ปต์กีฬาปิงปอง ที่ฮิตมากในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ฟังไม่ผิดแน่นอน กีฬาปิงปองจริงๆ เพราะที่นี่เป็นเปิดเป็นคอร์ดให้เช่าโต๊ะเล่นปิงปอง เป็นโรงเรียนสอนปิงปอง และเป็นร้านอาหารค่ะ โซนร้านอาหารเขาก็ยกเอาบรรยากาศสนามแข่งปิงปองมาไว้ในร้านด้วย อาหารก็ออกแบบได้เก๋ไก๋ ทำเป็นไม้ปิงปองกินได้กันเลยทีเดียว และที่เด็ดกว่านั้นก็คือทางร้านมีโต๊ะปิงปองมาตั้งให้ลูกค้าประดวลกันสดๆ เลยอีกด้วย ร้านนี้เปิดกันตั้งแต่ 11.00-23.30 น. เลยค่ะ หนุ่มสาวญี่ปุ่นที่เครียดมาจากงาน หากมาที่นี่ก็สามารถคลายเครียดด้วยการเล่นกีฬาก็ได้ หรือจะทานอาหารไปดูเขาเล่นปิงปองไปก็ดูจะเป็นการเดทที่น่าตื่นเต้นไปอีกแบบ

ที่ตั้ง : 1 Chome-12-16 Jinnan, Shibuya, Tokyo 150-0041

การเดินทาง : จากสถานี Shibuya Station (渋谷駅) ทางออก Hachiko Exit (ハチ公口) เดินต่ออีก 6 นาที

โทร : +81 3-6452-5743

เว็ปไซต์ : https://t-4.jp/tokyo/

ใครที่อยากพาคนพิเศษไปสวีทท่ามกลางลมหนาวปลายปีนี้...

จองตั๋วเครื่องบิน Full service แบบไปกลับของ Japan Airline พร้อมกับที่พักในราคาที่แสนคุ้มค่ากับแพคเกจ JALPAK เพราะนอกจากจะได้ตั๋วเครื่องบินราคาดีแล้วยังมีประกันการเดินทางของ Japan Airlineแล้ว ยังสามารถโหลดกระเป๋าเริ่มต้นได้ใบละ 23 กิโลกรัมถึง 2 ใบ รวมเป็น 46 กิโลกรัมอีกด้วย ไปช้อปปิ้งขนของกลับมาได้อย่างเต็มอิ่มเลยล่ะ ยิ่งถ้าหากใครจองตั๋วแบบ Business Class ยิ่งคุ้มค่าขึ้นไปอีก เพราะจะได้รับส่วนลดคู่ที่พักอย่างมาก โดยเฉพาะขาช้อปยิ่งถูกใจด้วยการโหลดกระเป๋าสุดโหด 32 กิโลกรัม ถึง 3 ใบ!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองตั๋วเครื่องบินที่ทาง http://www.th.jal.co.jp/thl/th/jaldp/coupon/womjapan/index.html

FOLLOW US ON
FACEBOOK