เอาใจสายฟิตโดยเฉพาะกับ 7 เส้นทางเดินป่าสุดสวยของญี่ปุ่นที่ต้องลองไปพิชิตดูให้ได้!

ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่มีธรรมชาติที่สวยงามเป็นอย่างมาก จึงมีเส้นทางเดินป่า ปีนเขา เที่ยวดูสัตว์ สำหรับผู้รักธรรมชาติและผู้ที่อยากปลีกวิเวกมากมายหลายเส้นทาง หากเพื่อน ๆ เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบธรรมชาติและไม่หวั่นกับการเดินทางไกล ๆ เราขอแนะนำ 7 เส้นทางเทร็กกิ้งของญี่ปุ่นที่อยากให้ไปกันค่ะ

 

1. เส้นทางแสวงบุญแห่ง Kumano Kodo, Kii Hanto

ระยะทาง: ยาวถึง 191 ไมล์ (ประมาณ 307 ก.ม.)

ระยะเวลา: 4-5 วัน หากต้องการไปให้ถึงศาลเจ้าสามแห่งที่เรียกรวมว่า Kumano Sanzan

Kumano Kodo ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกียวโต เป็นมรดกโลกของ UNESCO มีเส้นทางเดินป่าหลายทางครอบคลุมระยะทางถึง 191 ไมล์เหนือแหลม Kii Hanto ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางแสวงบุญของเหล่านักบวช เส้นทางเหล่านี้เกิดมากว่าหนึ่งพันปีแล้ว ถือเป็นเส้นทางที่นำไปสู่ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่งของ Kumano คือ Hongu Taisha, Hayatama Taisha และ Nachi Taisha เรียกรวมกันว่า Kumano Sanzan

สำหรับการเทร็กกิ้ง ขอแนะนำให้เริ่มต้นที่ Hosshinmon-oji แล้วเข้าสู่เส้นทางหลักชื่อ Nakahechi Route เส้นทางจะเป็นทางชัน ต้องปีนกันหน่อย บางช่วงก็เป็นบันไดหลาย ๆ สิบขั้น แต่ทิวทัศน์ระหว่างทางนี่ต้องบอกว่าสวยเหมือนอยู่ในป่าในนิทานไม่มีผิด

Nakahechi Route

ข้อมูลสถานที่และวิธีการเดินทางดูที่เว็บไซต์ (ทางการ): https://www.shinguu.jp/en/kumanokodo2

 

2. อุทยานแห่งชาติ Shiretoko จังหวัด Hokkaido

ระยะทาง: 15.5 ไมล์ (ประมาณ 25 ก.ม.)

ระยะเวลา: 2 วัน

ฮอกไกโดหน้าร้อนนับว่าเป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์สำหรับคนรักการผจญภัยเป็นอย่างมาก ที่ที่ขอแนะนำคืออุทยานแห่งชาติ Shiretoko เป็นหนึ่งในมรดกทางธรรมชาติของญี่ปุ่น เส้นทางเทร็กกิ้งของที่นี่เป็นไฮไลท์ที่ทำให้เห็นความสวยงามของธรรมชาติจริง ๆ การสำรวจเส้นทางบนคาบสมุทรชิเรโตโกะนี้จะใช้ไกด์นำทางหรือไม่ก็ได้ เป็นเส้นทางยอดนิยมของคนรักธรรมชาติ แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่มีคนเต็มจนล้น เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่ชอบความสงบเงียบและอยากดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง เส้นทางเทร็กกิ้งที่เราแนะนำจะเริ่มต้นที่ Iwaobetsu Onsen และจบลงในวันต่อมาที่น้ำตก Kamuiwakka Yu-no-taki สามารถค้างคืนแบบตั้งแคมป์ได้ด้วย ใครที่ชอบปีนเขาก็อาจใช้เวลาเพิ่มอีกหนึ่งวันเพื่อพิชิตเขา Rausu ซึ่งมีความสูง 5,448 ฟุตได้

Mt. Rausu

Kamuiwakkayu Falls

ข้อมูลสถานที่และวิธีเดินทางดูที่เว็บไซต์: https://www.japan-guide.com/e/e6851.html

https://www.env.go.jp/en/nature/nps/park/shiretoko/guide/view.html

 

3. เส้นทางแสวงบุญ Shikoku Henro Pilgrimage แห่งเกาะชิโกกุ

ระยะทาง: ยาวถึง 685 ไมล์ (ประมาณ 1,102 ก.ม.)

ระยะเวลา: นานถึง 6 สัปดาห์

เป็นเส้นทางสำหรับแฟนพันธุ์แท้ผู้หลงใหลคลั่งไคล้วัดเลยล่ะค่ะ เพราะถ้าเดินจบครบเส้นทางแสวงบุญเส้นนี้ก็จะผ่านวัดทั้งหมด 88 แห่งเลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในเส้นทางนี้ทั้งหมดประมาณเดือนครึ่ง แต่จะใช้ระยะเวลาน้อยกว่านี้ก็ได้ ถ้าจะตัดวัดที่ไม่เป็นที่นิยมออกไปบ้างหรือนั่งรถบัสกับรถแท็กซี่ในบางจุด ก็อาจจะเหลือเวลาที่ต้องใช้สักไม่ถึงสองสัปดาห์เลยก็ได้ การเดินทางตามเส้นทางนี้ต้องวางแผนการเดินให้เป็นวงกลมนะคะ เพราะตามประเพณี จุดเริ่มต้นในการเดินทางจะเป็นจุดเดียวกับจุดสิ้นสุดเส้นทางค่ะ นั่นคือวัดใดวัดหนึ่งที่เพื่อน ๆ เลือกนั่นเอง

ข้อมูลสถานที่และวิธีเดินทางดูที่เว็บไซต์ (ทางการ): http://www.tourismshikoku.org/henro/

ตัวอย่างการวางแผนเส้นทางการเดินดูที่: http://wwwtb.mlit.go.jp/shikoku/88navi/en/

 

4. เส้นทางสู่ยอดเขา Hotaka-dake ของเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น

ระยะทาง: แตกต่างกันตามแต่เส้นทาง

ระยะเวลา: 1-2 วัน

ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Japan Alps หรือเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นอีกแล้ว เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนสวยงามไม่แพ้เทือกเขาในยุโรปเลย และสำหรับนักปีนเขาที่จริงจัง การพิชิตยอดเขาต่าง ๆ ในเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นนี่ก็เป็นอะไรที่พลาดไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง หนึ่งในนั้นที่เราอยากแนะนำก็คือยอดเขา Hotaka-dake (10,466 ฟุต) ค่ะ การพิชิตยอดเขาแห่งนี้มีหลายเส้นทาง ที่ท้าทายที่สุด ชันที่สุด ก็คือเส้นทางที่เริ่มต้นจากกระท่อมที่พัก Dakesawa Hut ขึ้นไปยัง Kimi Kodaira แล้วก็ยังมีเส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมอีกหลายเส้นทาง อาทิเช่น การปีนเขา Okuhotaka และ Maehotaka สำหรับเส้นทางนี้นักปีนเขาต้องนำที่กรองน้ำและอุปกรณ์การเดินป่าปีนเขาไปให้พร้อมนะคะ เพราะจะต้องเผชิญกับความรกร้างทุรกันดารกว่าจะไปถึงจุดหมายปลายทาง

ข้อมูลสถานที่และวิธีเดินทางดูที่: https://www.mountain-forecast.com/peaks/Hotakadake

 

5. เส้นทางสู่ยอดเขา Yarigatake ของเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น จังหวัดนางาโนะ

ระยะทาง: แตกต่างกันตามแต่เส้นทาง

ระยะเวลา: 2 วัน

Yarigatake เป็นยอดเขาที่สวยจนน่าตื่นตะลึงแห่งหนึ่งของ Japan Alps สูง 10,433 ฟุต การเดินทางในเส้นทางนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องการหาที่พักเลยค่ะ เพราะมีกระท่อมที่พักให้ค้างคืนมากมายตามทางก่อนไปถึงยอดเขา ที่พักเหล่านี้เปิดให้บริการในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน ในช่วงฤดูปีนเขาก็จะคนเยอะแออัดหน่อย เพื่อน ๆ สามารถเลือกพักแบบตั้งแคมป์ก็ได้ตามถนัดเลยค่ะ เส้นทางช่วงแรกจะเดินง่าย ผ่านพื้นที่โล่งกว้างที่มีพืชพรรณสีเขียวขึ้นงามน่าตื่นตา แต่หลังจากนั้นก็จะเป็นทางขรุขระที่เดินลำบากหน่อย ต้องเดินไปตามสันเขา และต้องมีสกิลปีนเขามาช่วยด้วยถึงจะขึ้นไปถึงยอดได้ นักปีนเขาสามารถเลือกได้หลายเส้นทาง ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ ๆ ก็จะเป็นเส้นทางจากหุบเขา Yarisawa ไปที่ Kamikochi ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการเดินในเส้นทางที่สงบ ๆ ไม่จอแจก็แนะนำให้เลือกทางที่เริ่มต้นจาก Tsubakuro-dake และเดินเรื่อยไปตามสันเขาจนถึงยอด Yarigatake ค่ะ

ข้อมูลสถานที่และวิธีเดินทางดูที่เว็บไซต์: http://www.yarigatake.co.jp/english/

 

6. ทัวร์ตามรอย Basho

ระยะทาง: 100 ไมล์ (ประมาณ 161 ก.ม.)

ระยะเวลา: 9-10 วัน

เส้นทางนี้สำหรับผู้รักงานกวีนิพนธ์โดยเฉพาะเลยค่ะ มันคือเส้นทางของคุณ เพราะเป็นการเดินตามรอยกวีไฮกุคนสำคัญของญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 17 “Matsuo Basho” ไปตามเส้นทางเดินแคบ ๆ ขึ้นไปยังทิศเหนือ เป็นเส้นทางในตำนานที่เริ่มต้นจากโตเกียว (เอโดะ) ขึ้นเหนือผ่านทิวทัศน์สวย ๆ ของภูมิภาคโทโฮคุไปยัง Matsushima แล้วเดินตามทางขรุขระของชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นกลับเข้าไปในแผ่นดินมุ่งสู่เมืองเก่าที่สวยงามคือ Kanazawa (ข้อมูลบางแหล่งบอกว่าไปถึงเกียวโต) การเดินทางตามรอยกวีไฮกุหรือ Basho Tour นี้จะไปกับบริษัททัวร์ก็ได้ หรือไปเองก็ตามสะดวก เราจะเดินไปตามทางถนนที่เงียบสงบ ทางเดินในป่า และเส้นทางเดินในภูเขา ได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สวนต่าง ๆ และภูเขาอันเป็นธรรมชาติแท้ ๆ ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กวีผู้มีชื่อเสียงคนนี้

ไฮไลท์ของเส้นทางสายนี้จะอยู่ที่ Matsushima หรือหมู่เกาะต้นสน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นไตรทรรศน์แห่งญี่ปุ่น (Three views of Japan) เป็นสถานที่ที่มีวิวที่จัดว่ามีความงดงามมากที่สุด

Matsushima Bay

สำหรับผู้ที่ต้องการไปกับทัวร์ ดูข้อมูลได้ที่: https://walkjapan.com/tour/basho-tour-narrow-road-to-the-north

 

7. ภูเขาไฟฟูจิ จังหวัดชิซุโอกะ

ระยะทาง: แตกต่างกันตามแต่เส้นทาง

ระยะเวลา: 1-2 วัน

ภูเขาไฟฟูจิเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่สุดของญี่ปุ่น เดินทางจากโตเกียวมาได้ง่าย ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการปีนภูเขาไฟฟูจิคือตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงราว ๆ ต้นเดือนกันยายนหรือเมื่อไรก็ตามที่มีหิมะแล้ว จุดเริ่มต้นสำหรับเส้นทางสู่ยอดเขานั้นมีอยู่ 4 จุด หากเริ่มการเดินทางในตอนเช้าตรู่ก็จะพิชิตเส้นทางได้ในวันเดียว หรือจะพักค้างคืนสักคืนหนึ่งระหว่างทาง แล้วตื่นนอนก่อนฟ้าสางขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดเขา ก็จะเป็นประสบการณ์อันแสนวิเศษที่ไม่อาจลืมเลือน

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการปีนภูเขาไฟฟูจิโดยเฉพาะ ดูได้ที่เว็บไซต์ (ทางการ): http://www.fujisan-climb.jp/en/trails/index.html

 

แหล่งที่มาของข้อมูลและรูปภาพ: matadornetwork และ japan-guide รวมทั้งเว็บไซต์ที่ระบุข้อมูลของสถานที่แต่ละแห่ง

FOLLOW US ON
FACEBOOK