ไปชมทุ่ง Kochia ที่สวน Hitachi Seaside Park ด้วยกันมั้ย?

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของสวน Hitachi Seaside Park กันมาบ้างแล้ว
เพราะว่าทัวร์ไทยนั้นเริ่มเปิดเส้นทางพาไปชมสวนนี้กันมากขึ้น ดังนั้นวันนี้ผมขอพาไปเที่ยวที่ Hitachi
Seaside Park หรือชื่ออ่านตามภาษาญี่ปุ่นคือ Hitachi Kaihin Koen (ひたち海浜公園) กันครับ
สวนฮิตาจินั้นอยู่ที่เมืองฮิตาจินากะในจังหวัดอิบารากิ ซึ่งอยู่ติดกับทะเลก็เลยได้ชื่อว่าเป็น Seaside Park
นั่นเอง เปิดบริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์(แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลทุ่งดอกไม้จะเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด
ข้อมูลดูได้จากในเว็บไซต์ด้านล่างนะครับ) เวลา 9.30 น. ถึง 16.30 หรือ 17.00 น. หรือ 18.00 น.
แล้วแต่ช่วงเวลาตามที่กำหนดในแต่ละเดือนของปีนั้นครับ ค่าเข้าชมคนละ 410 เยน(เด็ก 80 เยน
และผู้สูงอายุ 210 เยน)

Kochia - Hitachi Seaside Park, Japan

จุดเด่นของสวนฮิตาจิที่เป็นที่รู้จักกันทั่วญี่ปุ่นก็คือมีการจัดสวนสวยๆตามเทศกาลในแต่ละฤดูครับ อย่างเช่น
ทุ่งดอก Nemophila สีฟ้าสวยที่จะบานในช่วงปลายเดือน เม.ย. ถึงกลางเดือน พ.ค. และทุ่งต้น Kochia
ที่จะเริ่มเปลี่ยนสีตัวเองจากสีเขียวไปเป็นสีแดงในช่วงต้นเดือนไปจนถึงปลายเดือน ต.ค. เลย
ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีผู้คนพากันไปชมทุ่งที่เค้าเรียกเป็นโซนว่า Miharashi นี้ที่สวนฮิตาจิกันล้นหลามเลยล่ะครับ

nemophila (hitachikaihin.jp)

นอกจากโซน Miharashi แล้ว สวนฮิตาจิก็ยังมีการจัดสวนดอกไม้สวยๆให้ได้ชมกันอีกมากมายทั้ง Cosmos
ที่จะบานเคียงคู่กับต้น Kochia ในยามที่เปลี่ยนเป็นสีแดงสดแล้ว, ดอก Poppy, ดอก Linaria, ดอก
Lavendor, ดอก Rosemary, ดอก Tulip, ดอก Narcissuse, ดอกกุหลาบก็มีด้วย เป็นต้น
ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีช่วงเวลาที่บาน vary กันไปในแต่ละปีครับ(ผมแนบตารางไว้ในคอมเม้นท์ด้านล่างแล้วล่ะ)

Tulip, Hitachinaka, Ibaraki, Japan

อ๊ะๆ! อย่าเพิ่งคิดว่าจะมีแต่พันธุ์ไม้ที่เป็นจุดเด่นนะครับ สวนฮิตาจินี้ยังมี Theme Park
หรือสวนสนุกสำหรับครอบครัวโดยมีชิงช้าสวรรค์สีรุ้งเป็นตัวชูโรง
และพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันไม่ว่าจะเป็นการปิกนิกหรือเล่นกีฬากันก็ทำได้คล้ายๆกับสวนรถไฟบ้านเราเลย
สวนสนุกของที่นี่เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นในการพาลูกหลานออกมาสนุกด้วยกันมากๆครับ
บางทีบริเวณสวนสนุกก็คนเยอะกว่าบริเวณสวนดอกไม้ด้วยซ้ำ!

Theme Park

คำถามสำหรับหลายๆคนคือ สวนกว้างขนาดนั้นจะเดินไหวเหรอ? .. ไม่ต้องห่วงครับ
ที่นี่เค้ามีบริการให้เช่าจักรยานขี่ด้วยล่ะ คิดค่าบริการ 400 เยน(เด็ก 250 เยน)ขี่ได้ 3 ชั่วโมง
และเพิ่มได้ในราคา 50 เยน(เด็ก 20 เยน)ในทุกๆ 30 นาที
นอกจากนั้นก็มีรถไฟบริการเหมือนตามงานกาชาดบ้านเราด้วยครับ โดยซื้อบัตรแบบ 1-day pass ในราคา
500 เยนก็นั่งได้ตลอดทั้งวันไม่จำกัดเที่ยวเลย สบายหายห่วงครับ

การเดินทางไป Hitachi Seaside Park นั้นก็ไม่ยากเลย จากโตเกียวสามารถนั่งรถไฟ Limited Express
ขบวน Hitachi หรือ Tokiwa หรือรถไฟ JR สาย Joban Line ก็ได้
โดยสถานีต้นสายของรถไฟส่วนใหญ่จะอยู่ที่สถานี Ueno (มีบ้างเป็นบางขบวนที่รถไฟเริ่มต้นออกจากสถานี
Tokyo หรือ Shinagawa) ไปลงที่สถานี Katsuta ที่อยู่ถัดจากสถานี Mito
ที่เป็นเมืองหลักของจังหวัดอิบารากิไปสถานีเดียว  ถ้านั่งรถไฟ Limited Express จะใช้เวลา 80-90 นาที

ส่วนรถไฟ JR สาย Joban Line จะใช้เวลา 120 นาทีครับ (ถ้ามีตั๋วพาสรถไฟไม่ว่าจะเป็น JR Pass, JR East
Pass, Kanto Area Pass หรือ Tokyo Wide Pass ในปีหน้า แนะนำว่าใช้จองที่นั่งรถไฟ Limited Express
ไปเลยครับ) และพอมาถึงสถานี Katsuta แล้ว เดินไปขึ้นรถบัสที่ป้ายรถบัสหมายเลข 2 ซึ่งอยู่หน้าร้าน
Lawson จะเป็นป้ายที่รถบัสไปถึง Hitachi Seaside Park ทุกคันครับ ลงที่ป้าย Kaihin Koen Nishiguchi
ค่าโดยสาร 400 เยน (ขากลับก็รอขึ้นรถบัสที่ป้ายรถเดียวกับที่เราลงรถมาเลยนะครับ)

ผมมีโอกาสได้ไปในช่วงต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้น Kochia
กำลังเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นแดงครับ อารมณ์มันยังครึ่งๆกลางๆอยู่
ต้นมันเขียวๆแซมแดงมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ส่วนทุ่ง Cosmos
ที่เค้าว่าจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือน ก.ย. นั้นบอกเลยว่าโดนหลอกครับ!

Kochia Now

เพิ่งจะเริ่มเอง

เพราะตอนที่ผมไปนี่เพิ่งจะเริ่มปลูกเองปัดโธ่.. เลยขอแนะนำว่าให้มาเยือนตั้งแต่กลางเดือน ต.ค.
ไปจนถึงต้นเดือน พ.ย. จะดีกว่าถ้าจะมาชมทุ่ง Kochia กับ Cosmos หรือถ้าจะอยากชมทุ่งดอก Nemophila
แนะนำให้เดินทางไปในช่วงต้นเดือน พ.ค. ครับ รับรองว่าเด็ดชัวร์!

ข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของ Hitachi Seaside Park : http://en.hitachikaihin.jp/

FOLLOW US ON
FACEBOOK
TAGS