พาเที่ยวดูใบไม้เหลืองที่โทได !

มหาวิทยาลัยโตเกียว (University of Tokyo) หรือที่เรียกสั้นๆกันว่า “โทได (Todai)” นั้น เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่และมีการออกแบบอาคารเรียนได้อย่างโดดเด่น เป็นมหาวิทยาลัยนักเรียนญี่ปุ่นหลายคนฝันว่าจะต้องเข้ามาเรียนที่นี่ให้ได้ ถ้าใครเคยดูซีรี่ย์ญี่ปุ่นหลายๆเรื่อง คงเคยได้ยินบ้างแหละเกี่ยวกับการสอบเข้าโทได ตัวอย่างเช่นเรื่อง Dragon Zakura ที่ตัวเอกที่เป็นอาจารย์นั้นได้เข้ามาติวนักเรียนที่ไม่ได้เรื่องทางด้านการเรียน ให้เข้าโทไดให้ได้ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้โทไดนั้นดูยิ่งใหญ่และเป็นความฝันของใครหลายๆคนไปเลย ไม่นานมานี้ก็มีเรื่อง Itazura na kiss ~ love in TOKYO หรือชื่อภาษาไทยว่า”แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก”เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ก็มีช่วงนึงที่พระเอกจะไปสอบเข้าโทไดโดยมีนางเอกคอยสนับสนุนพระเอกอย่างเต็มที่

ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นอีกสถานที่ยอดนิยมในการมาชมใบกิงโกะ(Ginkgo)หรือใบแปะก๊วยเปลี่ยนสีนั้นเอง ซึ่งที่โทไดนี้มีต้นแปะก๊วยอยู่เป็นจำนวนมาก หรือจะเรียกว่ามีแต่ต้นแปะก๊วยเลยก็ว่าได้ ขนาดสัญลักษณ์ของโทไดก็เป็นรูปใบแปะก๊วย

เนื่องจากโทไดนั้นอยู่ใกล้กับที่พักของแอดมินในยานากะ เดินจากที่พักแค่ประมาณ20นาที(1.9km)จึงมีโอกาสได้ไปบ่อยๆ ไปตั้งแต่ยังเขียวอยู่พอสมควรจนถึงช่วงพีค ที่ไปบ่อยเพราะบางครั้งต้องการจะไปขึ้นรถไฟสาย(Nanboku Line)เพื่อไปยังจุดหมายต่างๆ การเดินจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกกว่าการนั่งรถไฟอ้อมไป

ในวันแรกนั้นตั้งใจจะไปดูภาพรวมของโทไดก่อนว่าเป็นยังไง วันแรกที่ไปนั้นคือวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน  โดยรวมแล้วยังเขียวกว่าครึ่ง แต่ต้นทางด้านหน้านั้นเริ่มเหลืองแล้ว

ในวันที่สองที่ไปนั้น เป็นวันหลังจากที่ฝนตกและมีลมแรง จึงคาดว่าจะมีใบกิงโกะร่วงเต็มพื้นฝนตอนเช้าอย่างแน่นอน พอไปถึงก็เป็นไปตามคาด วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน ใบไม้เริ่มเหลืองมากขึ้นแล้ว และมีใบไม้ร่วงเต็มพื้นดูสวยงามมากๆ แต่ยังไม่ใช่ช่วงพีคของที่นี่

 ส่วนในวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน คงเป็นช่วงที่น่าจะเรียกได้ว่าพีคที่สุดแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายอะไร เดินเล่นเก็บบรรยากาศมากกว่า คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวมากันเยอะพอสมควรในวันนี้ และวันนี้ยังได้ลองกินอาหารมหาวิทยาลัยราคาถูกอีกด้วย (อาหารชุดนึงประมาณ400เยนขึ้นไป) โรงอาหารตั้งอยุ่ใตดินบริเวณหน้าหอนาฬิกาเลย

เป็นยังไงกันบ้างกับโทไดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ปีนี้ใครพลาด ก็ลองหาโอกาสไปเที่ยวปีหน้าดูนะครับ