ชวนไปว้าวกับรถไฟ 5 ขบวนที่ไม่ธรรมดาและมีเฉพาะญี่ปุ่นเท่านั้น

ถึงจะเป็นวันหยุดพักผ่อน แต่ถ้าต้องเดินทางไปไหนมาไหนโดยใช้เวลานาน ๆ ก็ดูเป็นเรื่องไม่สนุกและน่าเหนื่อยหน่าย แต่เรื่องนี้จะไม่เกิดกับคนญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นเต็มไปด้วยไอเดียใหม่ ๆ และวิธีคิดแก้ปัญหาเพื่อรับมือความไม่สะดวกสบายต่าง ๆ ด้วยการเดินทางในญี่ปุ่นที่ต้องใช้รถไฟเป็นหลัก คนญี่ปุ่นจึงมีไอเดียสร้างรถไฟที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้การเดินทางเป็นเรื่องไม่น่าเบื่อและการนั่งรถไฟเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น

1. รถไฟน้องแมว Tamaden

หลาย ๆ คนคงรู้จักเจ้าแมวสามสีประจำสถานีรถไฟ Kishi ที่มีชื่อว่า Tama รถไฟสาย Tamaden นี้ตั้งชื่อตามเจ้าแมวหัวหน้าสถานีรุ่นแรกตัวนี้ รถไฟ Tamaden เริ่มวิ่งตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 ตัวรถไฟมีสีขาว แต่งแต้มด้วยลวดลายของแมว Tama ทั้งหมด 101 ตัวทั่วทั้งขบวน ภายในรถไฟใช้โทนสี 3 สีแบบเดียวกับเจ้าแมว Tama รุ่นแรกไม่มีผิดเพี้ยน รับรองว่าทาสแมวต้องกระโดดขึ้นรถไฟขบวนนี้โดยไม่ทันรู้ตัวแน่ ๆ แต่น่าเสียดายที่เจ้าแมว Tama หัวหน้าสถานีรุ่นแรกได้จากพวกเราไปแล้ว หากใครที่อยากจะมานั่งรถไฟ Tamaden แล้วแวะทักทายน้องแมวหัวหน้าสถานีด้วยละก็ ทางบริษัทรถไฟ Wakayama ได้แต่งตั้งแมวหัวหน้าสถานีรุ่นที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สถานี Kishigawa และรุ่นที่ 4 ประจำอยู่ที่สถานี Idakiso เชิญทุกคนนั่งรถไฟแมวและมาทักทายกับน้องแมวหัวหน้าสถานีกัน แนะนำตั๋ว One day trip ราคาผู้ใหญ่ 260 บาท หรือ 780 เยน, เด็ก 130 บาท หรือ 390 เยน

Website : https://www.wakayama-dentetsu.co.jp/en/

รถไฟออนเซ็น Toreiyu Tsubasa วิ่งระหว่างจังหวัด Fukushima กับจังหวัด Yamagata เป็นรถไฟที่ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ท จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครเลยก็คือการยกบ่อน้ำพุร้อนมาไว้ในรถไฟ หากเดินทางนาน ๆ จนรู้สึกไม่สบายตัว ก็สามารถมานั่งแช่เท้าในบ่อน้ำพุร้อนเพื่อผ่อนคลายและชมวิวไปพร้อม ๆ กันได้ วิธีนี้เรียกว่า Ashiyu (การอาบน้ำที่เรียบง่ายที่เพียงเอาเท้าแช่อยู่ในน้ำร้อน) ผู้โดยสารที่สนใจจะใช้งาน Ashiyu ต้องซื้อคูปองราคาประมาณ 110 บาทหรือ 350 เยน แช่ได้สบาย ๆ ภายในเวลา 15 นาที หลังจาก Ashiyu ยังสามารถผ่อนคลายต่อได้อีกในเลานจ์ เป็นห้องที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่ให้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการใช้เสื่อทาทามิและโต๊ะไม้เชอร์รี่ พร้อมด้วยเครื่องดื่มไว้บริการที่เคาน์เตอร์บาร์ เสิร์ฟตั้งแต่สาเก Yamagata ไวน์ ไปจนถึง น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มอื่น ๆ

Website : https://www.jreast.co.jp/e/joyful/toreiyu.html

รถไฟห้องอาหาร Tango Kuro-Matsu ออกแบบเป็นห้องอาหารสุดหรูด้วยแนวคิด Sea of Kyoto เป็นไอเดียแปลกใหม่ที่ชวนให้ไปลอง ภายในรถไฟห้องอาหารจะแบ่งประเภทเมนูออกเป็น 3 คอร์ส คอร์สของหวาน คอร์สอาหารกลางวัน และคอร์ส Horoyoi ที่เน้นแอลกอฮอลล์ ขนมและอาหารที่เสิร์ฟบนรถไฟทั้งหมดใช้ส่วนผสมจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของเมือง Tango รถไฟวิ่งผ่านชนบทและทะเลของเมือง Amanohashidate เป็นวิวทิวทัศน์ที่เงียบสงบและสวยงามติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น การออกแบบของรถไฟให้ความรู้สึกที่หรูหรา เช่นการตกแต่งขบวนรถไฟด้วยเส้นสีทองและสีแดง ภายนอกรถไฟทาด้วยสีดำ เน้นความเป็นญี่ปุ่นด้วยการใช้ไม้จากธรรมชาติตกแต่งด้วยลายต้นสน สัญลักษณ์ของเมือง Amanohashidate รถไฟเริ่มวิ่งจากสถานี Amanohashidate และวนกลับมาที่เดิม

Website : http://willerexpress.com/en/train/tantetsu/

รถไฟ The Royal Express เป็นรถไฟท่องเที่ยววิ่งจากเมือง Izu ผ่านเมือง Yokoyama ไปจนถึงเมือง Izukyu-Shimoda ภายในรถไฟตกแต่งอย่างหรูหราไฮโซราวกับโรงแรมแพง ๆ รถไฟขบวนนี้แบ่งออกเป็น 2 ระดับ Platinum Class และ Gold Class ภายในห้องโดยสาร Platinum class ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับความหรูหราที่ล้อมรอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮโซ เช่น เก้าอี้นั่งที่ตกแต่งด้วยเทคนิคดั้งเดิมของ kumiko เพดานกระจกสี มีการแสดงไวโอลินและเปียโนบรรเลงสด พร้อมเสิร์ฟอาหารทะเลสด ๆ จากเมือง Izu สำหรับ Gold Class เต็มไปด้วยความบันเทิงครบทุกรูปแบบสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก เหมาะสำหรับครอบครัว เช่น บ่อน้ำที่มีลูกบอลและห้องสมุด ถึงราคาออกจะแพงไปหน่อยแต่ก็คุ้มค่าแน่นอน เพราะธรรมดาโลกไม่จำ

ราคาตั๋วพร้อมอาหาร Platinum Class 11,600 บาท หรือ 35,000 เยน / Gold Class ผู้ใหญ่ 8,300 บาท หรือ 25,000 เยน

Website : https://www.the-royalexpress.jp/

รถไฟโต๊ะ Kotatsu โดยบริษัท Sanriku วิ่งตามแนวชายฝั่งของจังหวัด Iwate ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามของหน้าผาสูงชันและทะเลสีฟ้าเข้ม เป็นวิวที่แค่มองจากหน้าต่างรถไฟก็ทำให้ตกตะลึงได้ ถือเป็นไฮไลท์ของรถไฟขบวนนี้เลยทีเดียว ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่แนะนำให้ขึ้นรถไฟโต๊ะ Kotatsu คือฤดูหนาว เพราะการได้ซุกตัวอยู่ในโต๊ะ Kotatsu บอกได้เลยว่าอุ่นและสบายจนไม่อยากลุกไปไหน รถไฟจะวิ่งช้า ๆ เพื่อให้ดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ และแม้กระทั่งหยุดแวะบางจุดที่วิวสวยเป็นพิเศษเพื่อให้ถ่ายรูปเช็คอินกัน ความดีงามของรถไฟยังมีอีก เพราะข้าวกล่องรถไฟที่นี่ถือว่าเด็ด ทำจากอาหารทะเลจากพื้นที่ของเมือง Sanriku มีทั้งหอยเม่น หอยเป๋าฮื้อ และหอยเชลล์ญี่ปุ่น ราคาตั๋วเทียบเท่ารถไฟธรรมดาขึ้นอยู่กับระยะทาง เช่น จากสถานี Kuiji ไปถึง Miyako ประมาณ 615 บาทหรือ 1,850 เยน หากต้องการจองที่นั่งคิดเพิ่ม 100 บาทหรือ 300 เยน

Website : https://www.sanrikutetsudou.com/

Writer :: Momiji

สนใจ และชื่นชอบเกี่ยวกับญี่ปุ่นในทุกแง่มุม เช่น การท่องเที่ยว ศิลปะวัฒนธรรม ภาษา บันเทิง อาหาร ประวัติศาสตร์ การ์ตูน และอื่นๆ มีประสบการณ์ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น และทำงานคลุกคลีกับชาวญี่ปุ่น มีความสุขที่ได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆผ่านตัวหนังสือ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมนักเขียน เพื่อบอกเล่าถึงเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นในแง่มุมต่างๆให้กับผู้ที่สนใจและชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่นได้สัมผัสด้วยนะคะ