กว่าจะมาเป็นตำนาน “Queen of J-Pop” 25 ปี ของ Amuro Namie

ย้อนกลับไปในวันที่ 20 กันยายน 2017 ของ ‘อามุโระ นามิเอะ’ (Amuro Namie: 安室 奈美恵) นักร้องหญิงคุณภาพมากความสามารถของวงการเพลงญี่ปุ่นที่ประกาศอำลาวงการหลังฉลองเดบิวครบรอบ 25 ปีไปไม่นาน โดยกำหนดลาวงการของเธอคืออีก 1 ปีหลังจากนี้ และในวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา นามิเอะได้ปิดตำนานของตัวเองในคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายที่บ้านเกิด จังหวัดโอกินาว่า ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น และ Facebook Official ที่เธอได้ฝากคำขอบคุณที่สนับสนุนมาตลอด 25 ปีในวงการ ก่อนจะปิดตัวลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 กันยายน 2018 ซึ่งเส้นทางของเธอในวงการที่มีทั้งขาขึ้นขาลง รุ่นน้องเก่งๆ ที่เกิดขึ้น เธอผ่านเรื่องราวทั้งหมดมาได้อย่างไร และคงตำนานของเธอไว้ได้อย่างไร ผู้เขียนขอสรุปเรื่องราวย่อๆ ไว้ในบทความนี้เป็นบทส่งท้าย Queen of J-Pop ของยุค 90 ไว้ที่นี่

อามุโระ นามิเอะ เป็นคนจังหวัดโอกินาว่า มีเชื้ออิตาเลียนจากทางคุณแม่ที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว (พ่อแม่เลิกกันตอนนามิเอะ 4 ขวบ) และมีความสนใจด้านวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กโดยเริ่มตั้งกลุ่ม “Super Monkeys” กับเพื่อนจากโรงเรียนการแสดงในโอกินาว่า เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงก็ถูกชักชวนมาโตเกียว ก่อนเริ่มออกงานเดี่ยวปี 1995 กับโปรดิวซ์เซอร์ยุคทอง โคมุโระ เท็ตซึยะ (Komuro Tetsuya) ภายใต้สังกัด AVEX Records นามิเอะ กลายเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเพลงที่ได้รับรางวัลใหญ่อย่าง Japan Record Award ทั้งยอดขายที่แตะหลักล้านทุกชุด มีเพลงฮิตมากมายอย่าง ‘Can You Celebrate’ และ ‘Chase The Chance’ ขึ้นแท่นราชินีเพลงป๊อป (Teen Queen of Japan) ในยุคนั้นไป ต่อมาปี 1997 มีข่าวประกาศตั้งครรภ์และแต่งงานในวัยเพียง 20 ปี ก่อนลาพักงานไป 1 ปี จนเป็นที่พูดถึงการเริ่มต้นของขาลง แต่ก็ในเวลานั้นไม่ได้ทำให้ความนิยมลดลงหรือยอดขายหายไป

จนมาในปี 1999 ในช่วงที่เธอได้มีโอกาสร่วมงานกับโปรดิวซ์เซอร์ชื่อดัง Dallas Austin จากอเมริกา ที่มาผลงานโปรดิวซ์ให้กับนักร้องดังๆ ระดับโลกมากมาย แต่เมื่อทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดีระหว่างโปรโมทซิงเกิ้ล Respect the Power of Love ก็เกิดข่าวใหญ่ขึ้น คุณแม่ของสาวนามิเอะในตอนนั้นถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมจากบุคคลในครอบครัว หลังงานคุณแม่ นามิเอะตัดสินใจเริ่มงานแนวเพลงสไตล์ R&B ในชื่อ ‘Something ‘bout the kiss’ ซึ่งยอดขายตกลงมาอยู่ที่หลักแสนต้นๆ ก่อนความนิยมลดลงเรื่อยๆ มาในปี 2000 ยอดตกลงไปอยู่ที่หลักหมื่น และมีนักร้องหน้าใหม่เกิดขึ้นอย่าง อุดาทะ ฮิคารุ (Utada Hikaru: 宇多田ヒカル) และ ฮามาซากิ อายูมิ (Hamzaki Ayumi: 浜崎 あゆみ) ขึ้นมาแทน

นอกจากปัญหาในวงการที่เกิดขึ้น ปัญหาชีวิตของเธอก็ไม่ได้ราบรื่นจนสู่กระบวนการทางกฎหมายเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกชายวัย 4 ขวบ และประกาศจบความสัมพันธ์กับสามีในปี 2002 นามิเอะพยายามลุกขึ้นสู้อีกครั้งด้วยกำลังใจจากแฟนเพลง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายขยับขึ้นเท่าที่ควร เธอใช้ความพยายาม ฝึก ร้อง เต้น ออกงาน ทัวร์คอน และพยายามปรับเปลี่ยนแนวเพลงไปเรื่อย จนในปี 2008 เธอก็ทำสำเร็จอีกครั้งในซิงเกิ้ลที่ 33 ‘60s 70s 80s’ กลับขึ้นชาร์ตเป็นอันดับ 1 ด้วยยอด 2 แสน 9 หมื่นกว่าแผ่น ในรอบเกือบ 10 ปี ถึงแม้ต่อจากนั้นจะไม่มีผลงานที่แตะหลักล้านอีกเลย แต่นามิเอะก็กลายเป็นควีนของวงการเจป๊อป จากการวางตัว งดออกสื่อ รายการต่างๆ จะพบปะแฟนๆ เฉพาะในคอน เพื่อลดข่าวไม่ดี และรักษาภาพลักษณ์ตัวเอง จนกลายเป็นภาพความสง่างามจนมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก ทัวร์คอนถูกเพิ่มรอบทั้งในและนอกประเทศที่เป็นตัวการันตีตัวเธอและผลงานที่ได้รับการยอมรับ ทัวร์ LIVE STYLE 2016-2017 จาก 85 รอบ ที่ถูกเพิ่มเป็น 101 รอบ และทัวร์อำลา Namie Amuro Final Tour 2018 ~Finally~ ซึ่งจัดแสดงที่ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง และไต้หวัน ถูกจองจนเต็ม รวมถึงศิลปินคนดังที่เคยร่วมงานกัน ก็ได้มาเซอร์ไพร้ส์แฟนๆ กัน

จนถึงวันนี้แฟนๆ หลายคนก็ยังไม่รู้ถึงเหตุผลที่เธอเลือกอำลาวงการ แต่ก็มีหลายคนเชื่อว่าเธออยากจะอำลาวงการในตอนที่ตัวเองยังอยู่บนจุดสูงสุด มีคนจดจำเธอได้ และในวันที่เธอสามารถเต็มที่ในทุกสิ่งอย่างได้ เพราะเธอคือคนที่เคยอยู่ในจุดสูงสุดและดิ่งลงอย่างกะทันหัน การเริ่มต้นอีกครั้งคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอ ดังนั้นก่อนวันนั้นจะมาถึง เธอเลยอยากเลือกอำลาวงการด้วยตัวของตัวเอง เรื่องราวของ ‘อามุโระ นามิเอะ’ ในวงการเพลงตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนชีวิต ที่สอนการใช้ชีวิตในหลายๆ แง่ ทั้งขึ้น ทั้งลง ทั้งความเชื่อมั่นในทางที่เลือกเอง และพยายามอย่างไม่ย่อท้อ จนวันที่ประสบความสำเร็จมาถึง ถึงก้าวเดินข้างหน้าจะยากสักแค่ไหน ถ้ายังเชื่อมั่นก็ต้องมีสักวันที่เป็นของเรา ขอบคุณผลงานดีๆ ที่จะยังอยู่ในใจของแฟนๆ ทุกคน 25年間お疲れ様です。

FOLLOW US ON
FACEBOOK