เที่ยวรับซัมเมอร์ กับ 3 จังหวัดใน 6 วัน ด้วยตั๋ว JR EAST PASS(Nagano,Niigata area) ตอน Nagano

ตั้งต้นนั่งชินคันเซ็นจากสถานีโตเกียวไป จังหวัดนากาโนะ  จังหวัดนีกาตะ และจบด้วยจังหวัดกุนมะ โดยมีเพียงแค่ตั๋ว JR EAST PASS(Nagano,Niigata Area) เป็นเพื่อนเดินทาง

NAGANO

Karuizawa

เมืองคารุอิซาว่า

คารุอิซาว่า เมืองที่ไม่มีตึกสูง และทุกอย่างดูคุมโทนด้วยสีเขียวและน้ำตาล เป็นเพราะที่นี่คือเมืองแห่งรีสอร์ทที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งความเป็นธรรมชาติ แม้ว่าฤดูร้อน อุณหภูมิก็ยังเฉลี่ยอยู่ที่ 21-25 องศา จึงทำให้ที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์หลบร้อนที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เห็นตั้งอยู่บนเขาและสันโดษผู้คนแบบนี้ ใครจะรู้ว่าห่างจากโตเกียวเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

Karuizawa Style

เดินเล่นตามเส้นทางจากสถานี Karuizawa ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะได้เห็นบ้านพักตากอากาศทรงยุโรป ไม่มีรั้วกั้น  ทุกหลังจะมีสวนขนาดใหญ่ล้อมบ้าน เป็นเพราะเมืองคารุอิซาว่า ต้องการให้ที่นี่ไม่ดูเป็นตัวเมืองเกินไป จึงได้ออกกฏหมายว่า ใครที่จะซื้อบ้านพักตากอากาศที่นี้ ต้องปลูกสวนประมาณ 20% ของพื้นที่ภายในรั้วบ้าน!

Karuizawa Logtei

รองท้องก่อนไฮกิ้งขึ้นเขาที่ร้านปิ้งย่างสไตล์ Country Home ที่นี่คิวแน่นไปด้วยคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว ใครมาคารุอิซาว่า ก็แนะนำให้ขับรถหรือเช่าจักรยานมาชิมเนื้อย่างร้าน Logtei แห่งนี้ เนื้อคัลบี้ติดมันหน่อยๆ เหนียวนุ่มเคี้ยวมัน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและซุปมิโสะ เพียงชุดละ 2,000 เยนทานได้ 2 คน คุ้มสุดๆ

     เวลาเปิด-ปิดบริการ

      11:00-14:00 Lunch / 17:00-22:00 Dinner

     วิธีการเดินทาง

      10 นาที จากสถานี Karuizawa / 4 นาที จากสถานี Nakakaruizawa

      http://www.logtei.jp

Shiraito No Taki

น้ำตกที่ไม่ได้ไหลจากแม่น้ำ แต่เป็นน้ำจากภูเขาไฟที่ซึมอยู่ใต้ดิน ไหลทะลุกำแพงหินหน้ากว้างกว่า 70 เมตร ลองสูดหายใจให้เต็มปอดแล้วค่อยๆ แผ่วลมดู เพราะชาวคารุอิซาว่าเขาบอกว่า ไอเย็นจากน้ำตกและต้นไม้ใบหญ้าของที่นี้จะช่วยเยียวยาและบำบัดสุขภาพจิตได้

Usui Touge

จุดชมวิวที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร ไอร้อนจากจังหวัดกุนมะมาปะทะกับความเย็นของเมืองคารุอิซาว่า เกิดเป็นทิวทัศน์ทะเลหมอกที่มองวิวเมืองแทบจะไม่เห็น จะไฮกิ้งเดินขึ้นเขาบนเส้นทางNakasendo ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร หรือจะนั่งรถเมล์แดงจากป้าย สะพานNite (ตรงข้ามโบสถคารุอิซาว่า ชอว์) มาลงสุดสายที่ Miharashidai

เส้นแบ่งเขตระหว่างจังหวัดนากะโนะและจังหวัดกุนมะ

Kumanokoutai Shrine

เดินมาไม่ไกลจากจุดชมวิว ก็จะพบกับศาลเจ้าที่มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 850 ปี ประดิษฐานอยู่ด้านใน ตามตำนานเล่าว่า ใครที่วิ่งรอบต้นไม้ตามเข็มนาฬิกา เทพเจ้าจะดลบรรดาลให้คำอธิษฐานของคนนั้นเป็นผลสำเร็จ

ต้นไม้ศักดฺ์สิทธิ์

Shige No Ya 

ร้านกาแฟตรงข้ามศาลเจ้าคุมะโนะโคโต ที่เปิดมาแล้วกว่า 300 ปี แวะพักขาจิบชาเบาๆ พร้อมสั่งขนม Chikara Mochi  ที่หาทานได้เฉพาะเมืองคารุอิซาว่าเท่านั้น เมื่อก่อน กว่าจะมายังจุดชมวิวบนยอดเขานี้ได้ ต้องใช้เวลาเดินค่อนข้างนาน นักเดินทางก็จะมานั่งพักตามร้านกาแฟและสั่งเจ้า Chikara Mochi ที่กินแล้วก็จะกลับมามีแรงเดินต่อ

เราสั่งรสถั่วเหลืองคินาโกะ หอมมัน หวานปะแล่ม กับรสวอลนัท ที่ผิวด้านนอกกรุบๆด้วยถั่วบด

Karuizawa Show Memorial Church

เดินลงเขามาเรื่อยๆ ก็จะพบกับโบสถ์แห่งแรกในเมืองคารุอิซาว่า ก่อตั้งขึ้นโดนอเล็กซานเดอร์ ครอฟท์ ชอว์ นักแผยแพร่ศาสนาชาวแคนนาดาที่เป็นเหมือนบิดาแห่งการค้นพบเมืองคารุอิซาว่า เขาเป็นผู้ที่พัฒนาให้เมืองคารุอิซาว่าให้กลายเป็นเมืองแห่งรีสอร์ทจนถึงปัจจุบัน

Kyu-Karuizawa

ตัดเข้ามาในถนนสายหลัก Kyu Karuizawa ที่จอแจไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย สถาปัตยกรรมของร้านค้าที่เรียงรายอยู่สองข้างทางได้ต้นแบบมาจากทางฝั่งยุโรป ทุกหลังจึงดูมีเรื่องราวให้เรานึกย้อนกลับไปในช่วงสมัยที่ชาวยุโรปเข้ามาเผยแพร่วัฒนธรรมให้กับประเทศญี่ปุ่นใหม่ๆ ของที่ขายก็ดูเป็นยุโรปผสมผสานญี่ปุ่นนิดๆ อย่าง ร้านเบเกอรี่ ร้านขนมปังฝรั่งเศส ร้านขายกางเกงยีนส์ แม้กระทั่งร้านซอฟต์ครีม

Mocca Solfcream เจ้าเด็ด

Iiyama

เมืองอียาม่า

Iiyama Tourist Information Center & Activity Center

เมืองอียาม่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในจังหวัดนากาโนะ บริเวณด้านล่างสถานีเป็นศูนย์รวมข้อมูลท่องเที่ยวของจังหวัด  ที่สำคัญ มีแผนที่ท่องเที่ยวภาษาอังกฤษสำหรับต่างชาติบริการ ไม่ต้องห่วงว่าจะหลงทาง รวมไปถึงยังมีของกระจุกกระจิกทำมือของจังหวัดนากาโนะวางจำหน่ายอีกด้วย

ใครขาลุยก็สามารถเช่าจักยานปั่นรอบเมืองได้ที่ศูนย์บริการแห่งนี้ เพราะเมืองอียาม่าเป็นเมืองที่โดดเด่นเรื่องกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากจักยานแล้วยังมีเรือแคนนู ,ชุดเดินป่าไว้ให้เช่า พร้อมกับมีแผนที่บอกว่าตรงไหนสามารถทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง

ราคาเช่าจักยานก็มีตั้งแต่ ราคา 500 ถึง 3,000 เยน

Panorama Terrace 2F 8:30-19:00

Mayumi Takahashi Museum of Doll Art

ไม่ไกลจากสถานี มีพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาผ้าที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านเมืองอียาม่า รูปร่าง สีหน้า และท่าทางของตุ๊กตาเหล่านี้ ถ่ายทอดความรู้สึกให้เราได้รับรู้ถึงชีวิตประจำวันของคุณตาคุณยายที่อยู่ที่นี้จริงๆ แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่ตุ๊กตาใส่ ศิลปินได้ใช้ผ้าที่มาจากเสื้อของคนจริงๆ ผลงานที่จัดอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทุกๆ 2 ปี

     เวลาเปิด-ปิดบริการ

      9:00-17:00

     วิธีการเดินทาง

      เดินเท้า 20 นาที จากสถานี Iiyama

      www.ningyoukan.net

Butsudan Street

ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านขายหิ้งบูชาพระพุทธรูปทั้งสองข้างทาง สีทองจากตู้ภายในร้านสะดุดตาเรามากจนต้องเปิดประตูเข้าไปถามถึงประวัติความเป็นมา เจ้าของร้านอธิบายให้เราฟังว่า Butsudan หรือตู้ที่เป็นหิ้งบูชาพระพุทธรูปนี้ เป็นงานแกะสลักไม้ด้วยมือ และเคลือบทองจริง ใช้เวลานานถึง 2 ปีครึ่งกว่าจะทำเสร็จออกมาหนึ่งตู้ ที่เห็นตู้บูชาพระพุทธรูปสวยทองอร่ามราวกับสวรรค์แบบนี้ ก็เพื่อจำลองให้เหมือนกับว่าถ้าบ้านใดที่มี  Butsudan ตั้งอยู่ก็เหมือนกับมีวัดภายในบ้าน

และละแวกนี้มีวัดกว่า 20 แห่ง ที่เราสามารถเดินไหว้พระได้ตามเส้นทางที่ทะลุกันหมด มาเปลี่ยนบรรยากาศไหว้พระ 9 วัดเป็นไว้พระ 20 วันกันดูไหม?

วัด Shonen –Ji ที่ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยงามมาก

Patisserie Hirano

ไม่ไกลจากถนน Butsudan Street มีร้านเค้กให้เราได้แวะเติมน้ำตาลเข้าเส้นเลือดก่อนออกเดินทางต่อ

Nagano

เมืองนากาโนะ

Nagano Tourist Information Center

นั่งรถไฟจากสถานีอียาม่า มาลงสถานีนากาโนะ แวะมาดูข้อมูลว่าแถวนี้มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ที่จุดบริการนักท่องเที่ยวหน้าสถานี ที่นี่มีบริการ Multilingual Call Center ล่ามภาษาไทยผ่านโทรศัพท์ หากเวลาเราไปซื้อของหรือสื่อสารกับคนญี่ปุ่นไม่เข้าใจ ก็สามารถโทรไปได้ที่เบอร์ +81-92-687-5289 ตลอด24 ชั่วโมง *จำกัดเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับนากาโนะเท่านั้น

Midori

ถัดไปใกล้ๆ ที่ห้าง Midori คึกคักไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อ ทั้งฝั่งเสื้อผ้าแฟชั่นและ อาหาร ของฝาก มาถึงนากาโนะทั้งทีแล้ว มาดูดีกว่าว่ามีร้านไหนบ้างที่เราไม่ควรพลาดซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับไทย

Roihado ร้านโอยะกิ หรือซาลาเปาย่างไส้ผักผลไม้ตามฤดูกาล

Ripe ร้านผลไม้อบแห้ง

RINGOnoKI ร้านแอปเปิ้ลพาย

Yawataya Isogoro ร้านเครื่องเทศ หรือพริกป่น 7 ชนิด (ชิจิมิโทะงะระชิ)

Mejite ร้านข้าวหมูทอดชุบซอสฉ่ำๆ โปะบนกระหล่ำปลีกองโต ที่ชั้น 3 ห้าง MIDORI

Zenko-Ji Temple

วัด Zenko-Ji เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นวัดพุทธแห่งแรกที่ก่อตั้งสมัยศตวรรษที่ 7และได้ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติแห่งชาติ ตามตำนานเล่าว่า สมัยก่อนมีนิกายที่ไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้นำพระพุทธรูปองค์นี้ไปทิ้งลงในบ่อน้ำ

แต่มีอยู่วันหนึ่ง Yoshimizu เดินผ่านบ่อน้ำดังกล่าวและได้ยินเสียงเรียก บอกว่า “ให้ข้าตามกับไปด้วย!!” จากนั้นร่างของพระพุทธรูปก็ปรากฎขึ้นอยู่บนหลัง Yoshimizu และเขาเองก็ได้เป็นผู้ที่ก่อตั้งวัด Zenko-Ji ขึ้นมา

ถนนคนเดินก่อนถึงอาคารหลัก

ก่อนเดินถึงตัวอาคารหลัก จะพบกับประตูไม้ Sanmon Gate ที่ดูมีมนต์ขลังและทรงพลังด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม สามารถขึ้นไปชมวิวได้จากด้านบนของประตู โดยมีค่าบริการคนละ 500 เยน ด้านบนจะเห็นวิวของถนนที่ยาวไปจนถึงสถานีนากาโนะ และวิวของตัววัดที่ตั้งอยู่บนตีนเขาได้อย่างสวยงาม

Sanmon Gate

ภายในอาคารไม้อันใหญ่โตที่เป็นเหมือนศาลาหลัก Zenko-Ji Hondo มี พระพุทธรูป Hibitsu (Secret Buddha) ประดิษฐสถานอยู่  พระพุทธรูปนี้เป็นพระพุทธรูปอันเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์องค์แรกที่ถูกห้ามไม่ให้ใครเห็นแม้กระทั่งเจ้าอาวาส แต่ทุกๆ 6 ปี จะมีการเปิดให้ชมพระพุทธรูปองค์จำลอง ในพิธี  Zenkoji Gokaicho  ซึ่งคนญี่ปุ่นกว่าหลายแสนคนก็จะมารวมตัวเพื่อสักการะช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Zenko-Ji Hondo

บริเวณที่พระพุทธรูป Hibitsu (Secret Buddha) ประดิษฐสถานอยู่

อุโมงค์ทางเดิน Kaidan Meguri ด้านหลังพระพุทธรูป

ที่บริเวณด้านหลังพระพุทธรูปจากประเทศไทย มีอุโมงค์ทางเดินห้องใต้ดินที่มืดสนิท ชนิดว่าตาบอด เวลาเดินต้องใช้มือคลำทางไปเรื่อยๆ  โดยจะไปเจอไม้ตะบองตรงห่วงประตู ซึ่งตรงกับตำแหน่งของพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์พอดี ว่ากันว่าเป็นกุญแจสู่สวรรค์ ที่ใครจับแล้วก็จะพบเจอแต่สิ่งดีๆ สามารถขอพรให้ชาติหน้าได้อยู่ในภพภูมิที่ดี มีแต่ความสุข

Genjin พระพุทธรูปที่ช่วยเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ใครเจ็บปวดตรงไหนก็ให้ลูบท่านที่ตรงนั้น

คนญี่ปุ่นเชื่อว่า การเจิมหัวด้วยควันธูปจะทำให้ฉลาด

Galerie Ren

เดินกลับออกไปบริเวณหน้าวัด จะมีวัดเล็กๆ อยู่ทางซ้ายมือเต็มไปหมด 1 ในนั้นมีร้านที่เราสามารถทำกล้องสลับลาย หรือ สร้อยข้อมือหินนำโชคในราคา 2,160 เยน++ เป็นของที่ระลึก ซึ่งราคาถูกว่าโตเกียว 2 เท่า

     เวลาเปิด-ปิดบริการ

      10:00-16:00

     วิธีการเดินทาง

      นั่งแท็กซี่  10 นาที จากสถานี Nagano

      www.zenkoji.jp

Monzensaryo Yayoiza

ร้านชาบูแบบแห้ง ที่หน้าตาเหมือนกับ MK Live บ้านเรา ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าวัด Zenko-Ji เนื้อและผักจะถูกนำไปนึ่งในกล่องไม้เป็นเวลา 3 นาที ระหว่างที่นึ่ง ความหอมของถาดไม้และเนื้อคลุ้งขึ้นมาตามไอน้ำ ลอยแตะจมูกไปทั่วร้าน ทีเด็ดอยู่ตรงที่ร้านใช้เนื้อ Shinshu เนื้อวัวท้องถิ่นของจังหวัดนากาโนะ ที่เลี้ยงด้วยแอปเปิ้ลและถั่วเหลือง เนื้อเลยมีรสชาติหวานหอม นุ่มลิ้น และผักก็เป็นผักจากจังหวัดนากาโนะที่คัดสรรมาอย่างดี ไม่ต้องปรุงอะไรก็มีรสชาติหวานของตัวมันเอง หรือใครจะจิ้มน้ำจิ้มปอนสุรสเปรี้ยวแก้เลี่ยนก็ได้ แค่ราคา 1,944 เยนเท่านั้น

     เวลาเปิด-ปิดบริการ

      11:30-20:30

     วิธีการเดินทาง

      ออกจากวัด Zenko-Ji ร้านจะอยู่ด้านขวา

      www.yayoiza.jp

Resort Hybrid Night View Obasute

ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้รถไฟญี่ปุ่น ต้องมาเปิดประสบการณ์นั่งรถไฟ Joyful Train ของ JR ขึ้นเขาชมวิวตอนกลางคืน ขึ้นรถจากสถานีนากาโนะ ระหว่างทางเราจะได้เห็นทั้งวิวชนบทแบบญี่ปุ่นและวิวเมืองที่รายล้อมด้วยภูเขาผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ รถไฟแล่นถึงสถานี โอบะสึเทะ ที่เป็นจุดหมายปลายทาง ท้องฟ้าก็มืดลงพอดี ทำให้เราเห็นแสงไฟจากตัวเมืองที่ส่องประกายวิววับในความมืด จากบนยอดเขาตรงจุดชมวิว

ระหว่างรอรถไฟขากลับก็นั่งฟังนิทานเพลินๆ พร้อมดื่มซุปมิโสะร้อนๆ ที่มีบริการให้ฟรี

     เวลาเปิด-ปิดบริการ

      ให้บริการเฉพาะวันศุกร์และวันเสาร์

      ขาไป (จากสถานีนากาโนะ) - 18:48 (รอบแรก)

      ขากลับ (จากสถานีโอบะสึเทะ) - 20:24 

      https://www.jreast.co.jp/e/joyful/resortfuru.html

FOLLOW US ON
FACEBOOK
TAGS