10 ร้านอาหารอร่อยสุดในชีวิต ราคาแบงก์พัน ยันแบงก์หมื่น ที่กุนมะ นีงาตะ นากาโน่

กุนมะ ||

1. Washinton plaza TakasakiGinza Sukiyaki- Shabushabu
2. GARBA Cafe
3. Bossa Nova Cafe

นีงะตะ ||

4. Tonkatsu Sanjo
5. Tochu Ojiya
6. Uonuma no Sato

นากะโนะ ||

7. YAMABUKI @Patio Daimon
8. Kokorone : Touji -soba
9. Le Grand Hotel and Resort
10. Karuizawa Logtei

กุนมะ

มองจังหวัดกุนมะในมุมมองคนที่เพิ่งไปเยือนถิ่นครั้งแรก เพราะดินดี น้ำดี และแดดดี จึงทำให้ที่นี่มีวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารที่อุดมสมบูรณ์

กลับมาเราก็เลยค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม และเพิ่งจะทราบว่า เมืองมินาคามิที่อยู่ทางด้านเหนือของจังหวัดนิยมปลูกผักบนพื้นที่สูง เช่น กระหล่ำปลีที่มีชื่อเสียงมาก ส่วนพื้นที่ราบก็มีการปลูกผักทั้งในและนอกอาคารเรือนกระจกอย่างกว้างขวาง เช่น แตงกวา, มะเขือเทศ, มะเขือยาว, ปวยเล้ง ฯลฯ

ส่วนผลไม้ก็ปลูกอย่างหลากหลาย เช่น ลูกบ๊วยที่ปลูกติดอันดับต้นๆ, บลูเบอร์รี่, แอปเปิ้ล, สาลี่, องุ่น, สตรอร์เบอร์รี่, เชอร์รี่, ลูกพีช ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีสวนที่ให้คนได้มาเที่ยวเก็บผลไม้จากต้นด้วยตนเอง แถมในเรื่องของของหวาน กุนมะยังติด 1 ใน 10 จังหวัตที่มีปริมาณการผลิตไข่ไก่มากของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

 1. Washinton plaza TakasakiGinza Sukiyaki- Shabushabu

 

 

เราขอเริ่มจากเมนูดาเมจแรง สุกี้ยากี้เนื้อบน โรงแรม Washinton Plaza ชั้น 12 ที่เราประทับใจจนถือว่าเป็นเมนูที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้
ก่อนจะเข้าเรื่องกินสุกี้ยากี้ ขอให้ความรู้นิดนึงว่าทำไมต้องมากินที่กุนมะ?
จริงๆ แล้วจังหวัดกุนมะมี "ผืนดินที่ใช้ความแตกต่างในระดับความสูงให้เป็นประโยชน์ในด้านการเกษตร " และ "จำนวนชั่วโมงของแสงแดดที่ยาวนาน" จึงเป็นแหล่งปลูกผักชั้นนำ
และถ้าอยากทานอาหารที่รวบรวมผัก และเนื้อวัวต่างๆ ที่กุนมะภาคภูมิใจ ก็ต้องเป็น "สุกี้ยากี้" มีทั้งต้นหอมซิโมนิตะที่มีรสชาติหวานเข้มข้น ผักกาดขาว เห็ดหอม และเส้นบุกซิราทาคิ เป็นต้น นอกจากนี้เติมเนื้อวัวที่มีชื่อของกุนมะเข้าไปด้วยแล้วล่ะก็...อื้ม ละลาย ละมุนในปาก หอมไข่ดิบสด หอมรสซีอิ้ว และรสกลมกล่อมของเนื้อวัว โอวววว มีเท่าไหร่ก็ไม่พอจริงๆ

  จ-ศ มื้อกลางวัน 11:30 - 14:00 มื้อเย็น 17:30 - 22:00 (LO 21:30)

ส-อา และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:30 - 15:00 มื้อเย็น 17:30 - 21:30 (LO 21:00)

    3 นาทีจากสถานี Takasaki

      http://restaurant.washington.jp/s/takasaki_ginza/

      https://goo.gl/maps/xHCf8Gc9uTL2

2. GARBA Cafe

 

 

ร้าน GARBA เป็นคาเฟ่ชิคๆ บรรยากาศร้านคือดีมาก เนื่องจากอยู่ที่เมืองมินาคามิซึ่งเป็นเมืองที่ถูกล้อมด้วยภูเขา ช่วงเวลาที่เราไปคือหน้าร้อน มองไปทางไหนก็จะสบายตาเพราะความเขียวขจี สดชื่นนี่แหละ
มีขนมขึ้นชื่อ Baumkuchen รสชาติไม่หวานไป มีรสชาติหลากหลาย ทั้งชาเขียว ชาโฮจิฉะ ก็มี ที่สั่งมาคือ ชิโอะคาราเมล ออกเค็มนิดๆ ตัดหวานของคาราเมล ชอบมาก แถมมีให้เลือกซื้อเป็นของฝากกลับบ้านด้วยนะ

       10:00 - 18:00

ลงป้าย Shimotsunoyo

 

http://www.garba.jp/

 

https://goo.gl/maps/hWig7oVk7Tx

3. Bossa Nova Cafe

 

 

 

ร้านนี้เหมาะกับคนรักช็อกโกแลต ของโปรดเราอีกแล้ว เราสั่งช็อกโกแลตรสส้มยูสุ รสส้มไม่โดดมาก ไม่ทำให้รู้สึกว่าเด่นกว่าช้อกโกแลตแน่นอน ที่ร้านยังมีอาหารกลางวันด้วย
ทั้งสองร้านราคาอาหารอาจสูงหน่อย แต่มินาคามิคือเมืองที่เรามาเพื่อพักผ่อน แค่มานั่งเสพบรรยากาศก็คุ้มแล้ว เที่ยวทั้งทีเอาให้คุ้ม ต้องเก็บให้ครบ ตั้งแต่มื้อยาจก ยันมื้อล้มละลาย

     10: 00 - 18: 00           หยุดวันพฤหัสบดี

http://www.bossanova-cafe.com/

 

https://goo.gl/maps/rXFYMDb6Rrx

นีงะตะ

ชื่อเสียงเรื่องความหอมหนึบหนับของข้าวโคชิฮิคาริ จากจังหวัดนีงะตะ เราได้ยินมาตั้งแต่ก่อนจะไปเยือนแล้ว เพราะมีแหล่งน้ำที่ละลายจากหิมะที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุบนเขาในฤดูหนาวไหลลงสู่ท้องนา ประกอบกับการได้ไปเห็นภาพนาขั้นบันไดกับตาที่เมือง Tōkamachi ในบริเวณที่เรียกว่า Hoshitoge ทุ่งนาที่เรียงรายไล่ระดับชวนตะลึงแบบนี้เรียกว่า Tanada ยิ่งทำให้เชื่อแล้วว่า เป็นข้าวที่อร่อยที่สุดในญี่ปุ่นด้วยความพิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอนการปลูกจนกระทั่งเก็บแพคลงถุง จึงเป็นเสน่ห์ที่ผู้รักการทานข้าว กับปลาย่าง หรือชอบดื่มสาเก ไม่ควรพลาด

 

4. Tonkatsu Sanjo

 

 

 

ความประทับใจแรกเมื่อเข้าจังหวัดแห่งท้องนาคือ ร้านขายข้าวหน้าหมูทอดราดซอส หรือที่เรียกว่าทาเรคัตสึดง เซ็ทละ 910 เยน จริงๆ ก็เหมือนกับคัตสึดงที่ไม่ตอกไข่ แต่ราดซอสโชยุแทน
รสชาติดีกว่าที่เคยกินมาทั้งชีวิต เราราดซอสเผ็ด ซึ่งไม่เผ็ดเลย ส่วนอีกรสคือรสหวาน ซอสช่วยเสริมความชุ่มฉ่ำของเนื้อหมู บวกกับความหนึบหนับของข้าวโฮชิฮิคาริของนีงาตะที่เพิ่มความเจริญอาหาร อร่อยสุดๆ ส่วนไข่ก็มีเป็นไข่ต้มโรยเกลือ ความพิเศษอยู่ที่ไข่มันสดมาก กินยังไงก็อร่อย

       11:00 - 21:30 L.O. 21:00

 

  900 เมตร จากสถานี Higashi-Sanjo

 

  http://www.tonkatsu-sanjo.com/

 

   https://goo.gl/maps/u45zSQwmtho

5. Tochu Ojiya

 

 

 

ร้านนี้มีความเก๋ที่นำบ้านเก่ามาทำร้านอาหารแบบไคเซกิ ชั้น 3 และคาเฟ่ชั้น 2 อาคารจึงสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ล้อมรอบไปด้วยสวนญี่ปุ่น แต่ได้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่นแท้ๆ
เรามาดูอาหารมื้อกลางวันแบบไคเซกิของเรากันดีกว่า
1. เต้าหู้โคโรเกะ เห็ดไมตาเกะ
2. ลูกชิ้นปลา ฟักต้มซุป กระเจี๊ยบ
3. เทมปุระ มันญี่ปุ่น มะเขือม่วง ปลา tachiuo
4. ไข่ตุ๋นเย็น วากิวโรสบีฟ สาหร่าย
5. ข้าวโรยไชเท้าดอง
6. คัมปาจิ ไท กุ้งหวาน
เราว่า การมาที่ญี่ปุ่นขอให้ลองไคเซกิสักมื้อ เพื่อให้ได้เสพมื้อหรูแบบญี่ปุ่นสักครั้ง

 

       อาหารเที่ยง 11:00 - 15:00
อาหารเย็น 17:00 - 23:00
คาเฟ่ 11:00 - 16:00
       1.6 กิโลเมตรจากสถานี JR Ojiya

 

http://tochu-ojiya.com

 

   https://goo.gl/maps/nJA2EeGLFPs

6. Uonuma no Sato  

 

 

 

Yukimuro สาเกที่จังหวัดนีงาตะมีชื่อเสียงมาก เพราะเป็นแหล่งปลูกข้าวของญี่ปุ่น ประกอบกับวิธีการหมักที่มีการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นต่อๆ กันมาแล้ว ยิ่งทำให้การดื่มสาเกของนีงาตะเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
ในช่วงฤดูหนาวที่นีงาตะมีหิมะปกคลุมสูงถึง 3 เมตร ในอดีตจึงนำหิมะมาเก็บทำเป็นห้องเย็นเพื่อถนอมอาหาร ต่อมาจึงได้นำหิมะมาเก็บเพื่อสร้างเป็นห้องผลิตเหล้าที่ 5 องศา ความเย็นจะวนอยู่ในนี้ และมีถังที่หมักเหล้าไว้ 3 ปี เมื่อครบรอบเหล้าก็จะอร่อย

Satoya ร้านคาเฟ่ Baumkuchen ใน Uonuma no Sato ที่นี่เปิดมาได้ 7 ปีแล้ว สินค้าขายดีอันดับ 1 คือ บังคุเฮงที่เคลือบด้วยเหล้าที่ผสมน้ำตาลคาราเมล อันดับ 2 คือ บังคุเฮงที่ผสมเหล้าในเนื้อเค้ก อันที่ 3 คือบังคุเฮงกลิ่นพีช ไม่มีเหล้า

        เวลา 10:00-17:00
15 นาทีจากสถานี Urasa

www.uonuma-no-sato.jp

 

   https://goo.gl/maps/miNr3smBfyy

นากะโนะ

ทริปกุนมะ นีงาตะ นากะโนะ มีความน่าแปลกคือ เราได้กินเมนูโซบะทุกวัน เป็นเพราะทั้ง 3 จังหวัดนี้มีพื้นที่สูงค่อนข้างมาก แต่เราก็ขอยกยิ้วให้นากะโนะเป็นอันดับ 1 ด้านโซบะ เพราะมีพื้นที่เป็นภูเขามากที่สุดคิดเป็น 80% ของพื้นที่ทั้งจังหวัด ด้วยเหตุนี้จึงเปี่ยมด้วยอากาศและน้ำบริสุทธิ์ และมีพื้นที่ปลูกต้นโซบะค่อนข้างมาก โดยเฉพาะที่ Togakushi พื้นที่การเพาะปลูกโซบะที่มีชื่อเสียงมากที่สุด  นอกจากนี้ยังมีวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่หลากหลาย

 

7. YAMABUKI @Patio Daimon

 

 

 

ร้านยามาบูกิได้รีโนเวตจากบ้านเก่าบนถนนหน้าวัด Zenkoji ที่เคยเป็นตลาด โดยมื้อไคเซกินี้มีไฮไลต์คือ เนื้อวัว ชื่อ Shinshu gyu เนื้อวัวขึ้นชื่อของจังหวัดนากะโนะที่กินแอปเปิ้ลจนตัวอ้วน เนื้อจะหอมหวาน นำมาย่างได้รสชาติที่นุ่มชุ่มฉ่ำ
เรียกว่าเป็นมื้อไคเซกิที่ประทับใจที่สุดในชีวิต เพราะมีสีสัน และพิถีพิถันในทุกๆ เมนู อีกเมนูประทับใจคือ โซบะ กับเทมปุระ สดมาก! ส่วนซาชิมิ จะมีปลามาได ชูโทโร่ โอโทโร่ หอยอาคะไก ที่สดอีกเช่นกัน

 

        มื้อเที่ยง 11:00-15:00         มื้อเย็น 17:00-20:00

300 เมตรจากวัด Zenkoji

 

http://yamabuki.px2.jp/

 

https://goo.gl/maps/BNneqvBD5V82

8. Kokorone : Touji -soba

 

 

 

ย่าน Narai Juku นี้เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตโซบะเก่าแก่ เส้นจะเด้งๆ เพราะใช้แป้งบัควีตที่ดีต่อสุขภาพในสัดส่วนที่มากกว่าแป้งสาลี ทานพร้อมซุปชาบูรสกลมกล่อม เราชอบที่รสมีความหอมของเห็ดชิเมจิ บวกกับการสนุกลวกเส้นทีละกำมือ เมนูนี้เรียกว่า โทจิโซบะ ราคา 1,450 เยน สุดท้ายแล้วตบท้ายด้วยของหวานขึ้นชื่อของที่นี่ โกเฮโมจิ โมจิข้าวเหนียวๆ ราดด้วยซอสงา หวานๆ เค็มๆ ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน และชอบมาก

 

11:00-14:30           หยุดวันอังคาร

 

     https://goo.gl/maps/1j4s6gGZDn52

9. Le Grand Hotel and Resort

 

 

 

มื้อค่ำที่ห้องอาหารฝรั่งเศส ของโรงแรมและรีสอร์ท เลอ แกรนด์ จัดบริการเป็นคอร์ส ด้วยบรรยากาศที่เหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศของยุโรป ประกอบกับภาพหุบเขาที่อยู่เบื้องหน้า ทำให้เป็นค่ำคืนสุดโรแมนติก เหมาะมากันแบบคู่รัก
มื้อนี้มีเมนูผักผลไม้สดจากเมืองหนาวอย่างคารุยซาว่า เพิ่มความสดชื่นคู่กับปลาแซลมอน ซุปลอปสเตอร์ที่มีรสชาติที่เข้มข้น และไฮไลต์ของมื้อนี้คือเนื้อย่าง

 

10. Karuizawa Logtei

 

 

 

รองท้องก่อนไฮกิ้งขึ้นเขาที่ร้านปิ้งย่างสไตล์คันทรี่ โฮม ที่นี่คิวแน่นไปด้วยคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว ใครมาคารุอิซาว่า ก็แนะนำให้ขับรถหรือเช่าจักรยานมาชิมเนื้อย่างร้าน Logtei เนื้อคัลบี้ติดมันหน่อยๆ เหนียวนุ่ม เคี้ยวมัน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย และซุปมิโสะ เพียงชุดละ 2,000 เยน ทานได้ 2 คน คุ้มสุดๆ

 

    มื้อเที่ยง 11:00-14:00
มื้อเย็น 17:00-22:00 เฉพาะวันเสาร์ 21:30

10 นาที จากสถานี Karuizawa

 

https://www.logtei.jp/

 

     https://goo.gl/maps/bZsaoV2Qh4R2

FOLLOW US ON
FACEBOOK