UNSEEN TOKYO ออกไปค้นพบวิถีชิวิตเรียบง่ายของชุมชนเล็กๆในโตเกียว

แค่เพียงระยะเวลาชั่วโมงกว่า ๆ จากมหานครอันวุ่นวายอย่างโตเกียว ใครจะไปเชื่อว่ายังมีพื้นที่สีเขียวอันเงียบสงบของเมืองทามะ (Tama City) ที่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผืนป่าเขียวขจี สายน้ำเย็น และวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชุมชนเล็ก ๆ ซ่อนตัวรอให้นักท่องเที่ยวไปค้นพบกันอยู่

การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นที่บริษัทเวิลด์โปร แทรเวิล ที่บอกมาว่าอยากจะพาไปสัมผัสกับโตเกียวในมุมมองแปลกใหม่ ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติเหมือนไม่ได้อยู่ในโตเกียว ภายใต้คอนเซปต์ Unseen Tokyo …

เอาล่ะสิ โตเกียวที่ไม่มีที่ช้อปปิ้ง และความวุ่นวายแบบเมืองหลวงนั้นจะเป็นอย่างไร ลองตามมาเที่ยวไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

OUME

จุดแรกที่เราแวะพักหลังจากออกเดินทางจากความวุ่นวายของเมืองหลวง คือเมืองโออุเมะ (Oume) เมืองเก่าชานกรุงของโตเกียว ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ หมู่บ้านโออุเมะหรือที่แปลได้ว่าหมู่บ้านลูกท้อเขียวนั้น ในอดีตเคยเป็นเมืองแห่งเหมืองหินปูน เป็นเมืองเส้นทางการค้าที่เป็นจุดแวะพักของพ่อค้าแม่ค้าที่มักนำสินค้ามาแลกเปลี่ยน

ปัจจุบันเมืองโออุเมะนั้นยังคงสวยงาม เรียบง่าย และยังคงกลิ่นอายของอดีตไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งบางร้านที่เรามีโอกาสได้แวะเข้าไปพูดคุยนั้นเปิดกิจการค้าขายมายาวนานมากว่า 400 ปีเลยทีเดียว

OKUTAMA

หลังจากดื่มด่ำกับอดีตอันสวยงามและอิ่มท้องกับมื้ออาหารง่าย ๆ กันแล้ว เรามุ่งหน้าต่อสู่เมืองโอคุทามะ (Okutama) ที่เป็นเขตการเกษตร และแหล่งน้ำอันสำคัญของกรุงโตเกียว โดยที่เมืองโอคุทามะนี้มีแหล่งน้ำสำคัญอย่างทะเลสาบโอคุทามะ หรือทะเลสาบที่เกิดจากการสร้างเขื่อนโอโกอุจิ (Ogouchi Dam) เขื่อนหลักที่ส่งน้ำเข้าสู่เมืองตัวเมืองโตเกียว ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้นั้นถูกโอบล้อมไว้ด้วยขุนเขา เราสามารถลงไปเดินเล่นบริเวณริมทะเลสาบ สูดอากาศบริสุทธิ์ และชมความงดงามยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้พร้อม ๆ กัน

นอกจากนั้นแล้ว หากเราลัดเลาะสายน้ำลงไปถึงลำธารด้านล่าง เรายังสามารถสนุกสนานไปกับกิจกรรมอย่างการพายเรือคายัคบนผืนน้ำอันสงบนิ่งกันได้อีกด้วย

KU-ROCHAYA

หากใครต้องการเพียงแค่นั่งเหม่อมองสายน้ำ ตลอดสายน้ำของแม่น้ำทามะยังมีร้านอาหาร คาเฟ่บรรยากาศดี ที่สามารถนั่งชิล ชมความงามของสายน้ำ และป่าไผ่ไปกับอาหารมื้ออร่อยที่มีให้เลือกอยู่มากมายหลายร้าน เช่น ร้าน Kurochaya ร้านอาหารญี่ปุ่น ในบ้านเก่าสวยงาม ที่ซ่อนตัวได้อย่างลงตัวสง่างามท่ามกลางธรรมชาติของป่าไผ่ โดยนอกจากความเคร่งขรึมและเงียบสงบของร้านอาหารตามสไตล์ร้านอาหารแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารที่มีการจัดแต่งและเสิร์ฟได้อย่างสวยงาม โดยอาหารขึ้นชื่อของที่นี่คือ ปลาอายุ ปลาแม่น้ำที่มีรสชาติอร่อยหวาน สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นย่างเกลือหรือ ซาชิมิ

SAWANOI GARDEN

และร้าน Sawanoi Garden หรืออดีตโรงกลั่นสาเกริมแม่น้ำทามะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของสายน้ำ และการเกษตร อาหารขึ้นชื่อของที่นี่คือ เต้าหู ที่นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายทั้งคาวและหวาน เรียกได้ว่ามาแวะโรงกลั่นสาเกแห่งนี้ เราจะได้อิ่มทั้งท้อง อิ่มตา และอิ่มใจไปพร้อมๆ กัน

AKISHIMA

เมื่อมาเยือนเมืองแห่งธรรมชาติ เมืองแห่งกิจกรรมกลางแจ้งกันทั้งที อีกหนึ่งเมืองที่ควรแวะเที่ยวเป็นอย่างยิ่งคือเมืองอะกิชิมะ (Akishima) ที่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นเพื่อต้อนรับกีฬาโอลิมปิคอย่าง Mori Park Outdoor Village หรืออดีตโรงซ่อมเครื่องบินที่ปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการให้ข้อมูล

และกิจกรรมเกี่ยวกับมหกรรมกีฬาโอลิมปิค ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพในปี 2020 โดยเฉพาะกับกีฬาปีนหน้าผาจำลอง ที่ศูนย์แห่งนี้ต่อไปจะใช้เป็นสนามแข่งขันกีฬาประเภทนี้ แต่หากกำลังแขนกำลังขาไม่เป็นใจ ก็สามารถไปเดินเล่นเย็นใจบริเวณรอบศูนย์ที่เขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ร้านค้า และคาเฟ่น่ารักมากมายได้เช่นกัน

Mt. MITAKE

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เวิลด์โปร ทราเวิล ยังพาไปเที่ยวสองแหล่งธรรมชาติสำคัญที่ชาวโตเกียวมักแวะมาพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดอีกคือ ภูเขามิตาเกะ (Mt. itake) ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 929 เมตร นับเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่นที่เป็นที่ตั้งของศาลเจ้ามุซาชิมิตาเกะ (Mushashimitake Shrine) โดยสามารถนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปได้จนเกือบถึงยอดเขา ส่วนใครอยากลอง Hiking หรือเดินสำรวจผืนป่าก็สามารถทำได้เช่นกัน

SHOWA KINEN PARK

สวนโชวะคินเนน (Showa Kinen Park) โดยสวนแห่งนี้นั้นใหญ่โตถึง 16,300 เอเคอร์ หรือใหญ่ขนาดที่อาจจะเรียกได้ว่าผืนป่าของชาวโตเกียวเลยก็ว่าได้ ภายในสวนสามารถแบ่งออกได้หลายโซน และเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางเท้า และเส้นทางจักรยานที่สามารถปั่นชื่นชมความงดงามของสวนกันได้แบบสบายๆ

นอกจากความสมบูณณ์ของต้นไม้ และกิจกรรมหลากหลายที่สามารถเลือกเล่นกันได้แล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของสวนแห่งนี้ที่ไม่อยากให้พลาดกันคือ สวนบอนไซ ที่มีเซนเซ ซูซูกิ ศิลปินบอนไซที่มีชื่อเสียงระดับประเทศคอยดูแล โดยภายในบริเวณสวนบอนไซนั้นจะมีการจัดแสดงบอนไซรูปร่างสวยงาม อันแสดงถึงความทุ่มเท และความใส่ใจของอาจารย์ซูซูกิ โดยอาจารย์ได้เล่าให้ฟังว่า เพียงแค่การเรียนรู้เรื่องการให้น้ำบอนไซนั้นยังต้องฝึกฝนกันถึง 2 ปี และบอนไซที่สวยงามนั้นจะต้องเป็นบอนไซที่กิ่งโน้มลงมาด้านหน้า เปรียบเสมือนคนที่มีความอ่อนน้อมเหมือนชาวญี่ปุ่นนั่นเอง

นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความแปลกใหม่ ตื่นตาตื่นใจกับโตเกียวในแบบ Unseen ที่เวิลด์โปร แทรเวิลได้พาเราไปรู้จัก ใครจะไปเชื่อว่าโตเกียวที่ใครต่อใครมักวาดภาพให้เป็นเมืองแห่งความวุ่นวาย จะมีมุมเงียบสงบอิงแอบธรรมชาติกันแบบนี้ เพราะฉะนั้นหากมีโอกาสได้ไปเยือนมหานครโตเกียว ก็อย่าลืมหาเวลาออกมาสัมผัสกับธรรมชาติและสายน้ำใกล้กรุงโตเกียวกันนะคะ

คลิ๊กที่แผนที่เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

FOLLOW US ON
FACEBOOK