Patisserie Sadaharu AOKI อีกหนึ่ง patisserie chef สัญชาติญี่ปุ่น ที่โด่งดัง และสร้างร้านจนประสบความสำเร็จที่ปารีส

คนญี่ปุ่นเป็นชาติที่ชื่นชม ศิลปะ วัฒนธรรม ทางฝรั่งเศสอย่างมาก โดยเฉพาะปารีสครับ ดังนั้นความใฝ่ฝันของปาเต้ญี่ปุ่นคือการไปปารีส แต่มีปาเต้เพียงไม่กี่คนที่สามารถได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ทางสายขนมหวานนั้น คุณอาโอกิ ถือเป็นท่านหนึ่งที่ประสบความสำเร็จได้ครับ หลังจากฝึกฝีมือมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นยี่สิบต้นๆ จนสามสิบ ก็สามารถตั้งร้านแรกได้สำเร็จที่ฝรั่งเศส แต่ก็ยังต้องใช้เวลากว่าจะลงตัว จนชื่อเสียงโด่งดัง คุณอาโอกิจึงเลือกที่จะกลับมาที่ประเทศบ้านเกิด เพราะตลาดของหวานที่ญี่ปุ่นถือเป็นตลาดที่แข่งขันกันสูงทีเดียวครับ สาขาแรกของคุณอาโอกิที่โตเกียว ตั้งอยู่ในตึกรปปงหงิมิดทาวน์ ลักษณะการทานของคนญี่ปุ่นยุคแรกๆ ก็เหมือนกับคนไทย ที่ไม่ได้รับอะไรที่แปลกแหวกแนว เหมือนสังคมไทยเราที่ เค้กจะต้องเป็นชอคโกแลคหน้านิ่ม เค้กส้ม บลูเบอรี่ชีสพาย ไม่เปิดรับตาร์ด มากาโฆง แต่ด้วยการรับวัฒนธรรมมากขึ้น ก็เริ่มมีสไตล์ขนมแบบใหม่เข้ามา คุณอาโอกิ เป็นตัวแทนที่นำเข้ารสที่ไปทางมูสอย่างชัดเจน เข้ามาในตลาดญี่ปุ่นยุคเดียวกับคุณอิเดมิ(รุ่นพี่)ครับ (เราเคยเขียนรีวิวของร้านคุณอิเดมิไว้แล้วที่นี่ คลิก)
IMG_3588 การมาร้านของคุณอาโอกิ ที่ต้องทานก็คือ ตอง-ปูฆ-ตอง หรือส่วนหนึ่งของมากาโฆงนั้นเองครับ และตัวมูสนั้นลองสั่งตัวแนะนำของร้านจาก ที่จะนำเสนอเมนูเด่นขึ้นชื่อที่ทำออกมาแต่ละวัน โดยทางผู้จัดการร้าน ที่จะนำ 6 เมนูของร้านมาเสิร์ฟครบในจานเดียว พร้อมอธิบายอย่างละเอียดและลำดับการทานอย่างถูกต้องให้รับรู้ จะทำให้ได้อรรถรสในการทานมากขึ้น
IMG_0986
IMG_1996 แต่แน่นอนว่าทางเราอยากทดลองทานล่ะ เมนูที่ขาดไม่ได้ จนผมอยากยกให้ คือ มากาโฆง ที่ทำให้ คุณอาโอกิ เทียบเท่า Pierre Hermé หรือ Ladurée คือ การทำมากาโฆง ในรสชาติที่คนเอเชียถนัด ในส่วนรสแนวตะวันตก ถึงของคุณอาโอกิจะละมุ่นกว่า แต่ก็ยังถือว่า สไตล์ไม่ชัดเจนครับ ถ้าจะลองทานจนต้องยกนิ้วให้ คือ รสงาดำ ที่ให้ความหวานบางๆแต่กลิ่นที่หอมนวลๆมีเสน่ห์มาก รสชาเขียว ที่เชื่อว่าต้องเซ็นต์จากคนญี่ปุ่นถึงจะเข้าใจได้ดีที่สุด รสเกนไมฉะ หรือชาเกนไม(ที่จะมีกลิ่นข้าวคั่ว ข้าวพอง) ก็ทำได้อย่างดี ถ้าได้ลองรสชาติแบบเอเชียในมากาโฆง คิดว่าน่าจะถูกใจมากแน่นอนครับ
IMG_8279 ในส่วนของเค้กนั้น เมนูสร้างชื่อที่สุดของคุณอาโอกิ ก็ยังคงความเป็น เซน เอาไว้ด้วย โอเปราชาเขียว ที่เป็นบาลานท์รสด้วยชาเขียวแทนช็อคโกแลต ส่วนที่แทนกาแฟคือ คิบิซาโตว ที่เคี่ยวเป็นคาราเมล ที่ต้องคุมเวลาให้ดี เพราะเป็น 1 ในน้ำตาลที่มีแร่ธาตุสูงทำให้ไหม้ง่ายมาก จนขมได้ง่าย ถ้าคุมไม่ดี จะแทบทานไม่ได้ ข้อดีคือมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของคนญี่ปุ่นได้ดีเป็นทุนครับ ตัวนี้ถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว
IMG_2009 นอกจากนั้น ถ้าสนใจอยากทำเค้กสไตล์คุณอาโอกิ ท่านยังมีงานเขียนหนังสือ ปล่อยสูตรจากขนมในร้านหลากหลายสูตร ชนิดหมดเปลือก (แต่จะเป็นนิตยสารในฝรั่งเศส และ ญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่) ทำให้สามารถเข้าใจในหลักการทำ ถ้าฝึกฝนจนชำนาญ ก็เรียกได้ว่า คุณอาโอกิรับประกันว่า อร่อยเหมือนทานที่ร้านทีเดียวครับ

เช่นเดียวกับร้านระดับเดียวกันหลายๆที่ ร้านนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปในร้านครับ เนื่องจากจะรบกวนลูกค้าท่านอื่น ดังนั้นถ้าถูกห้าม ก็อยากจะให้เข้าใจถ้าร้านสักหน่อยนะครับเพื่อนๆ

IMG_2002
ส่วนร้านของคุณอาโอกินั้นมีอยู่หลายสาขา ลองเข้าไปดูจากเว็บไซต์ของร้านได้เลยครับ มีทั้งโตเกียว นาโงย่า และฟุกุโอกะครับ http://www.sadaharuaoki.com/boutique/tokyo-en.html

FOLLOW US ON
FACEBOOK
TAGS