TripAdvisor ได้รวบรวมรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยว และจุดชมวิวฟรีที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นประจำปี 2017 โดยการจัดอันดับและรวมรวมข้อมูลจากเว็บไซด์มาทั้งหมด 20 อันดับ แต่เราจะเลือกมาสัก 5 อันดับที่น่าสนใจว่ามีอะไรบ้าง รับประกันได้เลยว่าสวยและน่าไปเช็คอินไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวดังๆ ที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแรกเข้าเลยล่ะ
1. Tokyo Metropolitan Government Building (ตึกศาลาว่าการกรุงโตเกียว)
![free travel spot (5)](https://www.womjapan.com/wp-content/uploads/2017/11/free-travel-spot-5.jpg)
ติดโผมาเป็นอันดับ1 กับ Tokyo Metropolitan Government Building ของรัฐบาลตั้งอยู่ที่ ชินจูกุ เปิดให้ขึ้นไปชมวิวที่ชั้น 45 โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซักเยน ตัวตึกมีอยู่ 2 อาคาร ได้แก่ North Tower และ South Tower ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ และ ทิศใต้ บริเวณที่เปิดให้ขึ้นไปชมวิวเป็นชั้น 45 ที่ระดับความสูง 202 เมตร สามารมองเห็นวิวได้แบบพาโนรามา ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินไปที่อาคารเพื่อชมวิวสวยๆ ถ้าไม่กี่ปีที่ผ่านมาคุณจะไม่เห็นคนต่อคิวขึ้นลิฟท์ แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่จะเห็นคนต่อคิวยาวเหยียดเกือบถึง 50 เมตรในตอนเที่ยงของวันธรรมดา
2. Hiroshima National Peace Memorial Hall for the Atomic Bomb Victims
(หอรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูแห่งชาติฮิโรชิม่า)
![free travel spot (1)](https://www.womjapan.com/wp-content/uploads/2017/11/free-travel-spot-1.jpg)
ที่นี่คือสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูและเผยแพร่ประสบการณ์การประสบเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูของผู้เสียหาย เปิดในเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2002 หออนุสรณ์แห่งนี้ยังให้ผู้เข้าชมได้มีโอกาสดูและฟังข้อมูลต่างๆ เช่น บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับระเบิดปรมาณู วิดีโอเปิดเผยข้อเท็จจริงจากผู้รอดชีวิต รวมถึงเผยแพร่ชื่อและรูปถ่าย (ภาพวาด) ของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณูต่อสาธารณชน นอกจากนี้ ทั้งยังมีการจัดการอ่านบันทึกความทรงจำและบทกวีเกี่ยวกับระเบิดปรมาณู
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.hiro-tsuitokinenkan.go.jp/
3. Shugakuin Imperial Villa
(พระตำหนักชุงะคุอิน)
![free travel spot (8)](https://www.womjapan.com/wp-content/uploads/2017/11/free-travel-spot-8.jpg)
อยู่ที่เกียวโต สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ตามบัญชาของพระจักรพรรดิโกมิซูโน มีการต่อเติมพระตำหนักเเห่งนี้หลายครั้งด้วยกัน โดยครั้งสุดท้ายนั้นคือ ค.ศ.1964 บริเวณโดยรอบพระตำหนักนั้นเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่ทางสำนักพระราชวังญี่ปุ่นยังคงให้ชาวบ้านได้เช่าทำการเกษตรมาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีการเเบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือพระตำหนักส่วนบน, ส่วนกลาง เเละส่วนล่าง และเปิดให้เข้าชมถึง 5 รอบและไม่ต้องเสียค่าเข้าด้วย แต่มีข้อแม้ว่าต้องจองล่วงหน้า เน้นการเดินที่สวนเป็นหลัก
ดูรายละเอียดตามนี้ได้เลย http://sankan.kunaicho.go.jp/order/index_EN.html
วิธีเดินทางก็คือ เดิน 10-15 นาที จากสถานี Shugakuin Station [Eizan Railway Line]
4. Katsura Imperial Villa
(พระตำหนักคัตสึระ)
![free travel spot (6)](https://www.womjapan.com/wp-content/uploads/2017/11/free-travel-spot-6.jpg)
สร้างขึ้นโดยเจ้าชายโทชิฮิโตะใน ค.ศ.1645 โดยออกแบบขึ้นเพื่อให้เหมือนฉากในตำนานเก็นจิ นวนิยายอันโด่งดังในศตวรรษที่ 11 ที่นี่มีความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรม ,สวนญี่ปุ่นและเรือนน้ำชาที่ออกแบบแตกต่างกันไปจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ทั้งยังเคยได้ได้รับการกล่าวถึงในหนังสือของสถาปนิกชาวเยอรมันที่มีชื่อเสียงมากมายเช่น บรูโน เทาต์ ,เลอกอร์บูซีเยและวอลเตอร์ โกรเปียส สำหรับการเข้าชมสามารถชมได้แค่เฉพาะภายนอกประมาณ 1 ชั่วโมงและต้องติดต่อกับสำนักพระราชวังล่วงหน้า 2-3 วันในวันธรรมดา และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
5. Kyoto Museum of Traditional Crafts
(พิพิธภัณฑ์หัตถกรรมพื้นบ้านเกียวโต)
![free travel spot (3)](https://www.womjapan.com/wp-content/uploads/2017/11/free-travel-spot-3.jpg)
พิพิธภัณฑ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมงานฝีมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นทุกรูปแบบ ตั้งแต่ผ้าทอนิชิจิน-โอะริ ไปจนถึงตุ๊กตาแบบเกียวโต เกียว-นินเกียว มีการแสดงและการฝึกอบรม เช่นการเต้นรำแบบดั้งเดิมโดยไมโกะ ผู้ฝึกงานเป็นเกอิชา รวมทั้งการสาธิตการทำงานฝีมือโดยผู้เชี่ยวชาญสิ่งทอ พิพิธภัณฑ์มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้นแรกเป็นนิทรรศการตามแผนงานและบางครั้งใช้จัดแสดงผลงานของศิลปิน ชั้นสองจัดแสดงนิทรรศการศิลปะ ซึ่งล้วนเป็นผลงานระดับครูของมหาวิทยาลัยศิลปะโบราณเกียวโต
![free travel spot (7)](https://www.womjapan.com/wp-content/uploads/2017/11/free-travel-spot-7.jpg)
สถานที่อื่น ๆ ที่ติดอันดับในรายการคือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับโรงเบียร์ โดยเฉพาะ ฮอกไกโด,ชิซูโอกะ, ไอจิ, เกียวโตและโอซาก้า ซึ่งรวมถึงโรงงานเบียร์อาซาฮีในฮอกไกโด,ซุยตะ (โอซาก้า) นาโกย่า (ไอจิ) และ "Baird Brewery Garden Shuzenji" ใน ชิซูโอกะ และโรงงาน Suntory Kyoto Beer ในเมืองเกียวโต ซึ่งทั้งหมดทัวร์เข้าชมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย คุณสามารถชิมเบียร์ได้ฟรีที่โรงงาน Asahi Beer ทั้งสามแห่ง และ Suntory Beer Factory
![free travel spot (2)](https://www.womjapan.com/wp-content/uploads/2017/11/free-travel-spot-2.jpg)
และที่ติดอันดับเป็นครั้งแรกในปีนี้คือ โนซาว่าออนเซ็นเป็นน้ำพุร้อนที่ ตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโนะ น้ำแร่ของน้ำพุร้อนที่โนซาวะมีคุณภาพดีกว่าที่อื่น ๆ เพราะเป็นน้ำพุธรรมชาติจาก 30 แหล่งที่ถูกส่งไปยังเรียวกัง(โรงแรมแบบญี่ปุ่น)และไปยังที่อาบน้ำสาธารณะอีก 13 แห่ง
![free travel spot (4)](https://www.womjapan.com/wp-content/uploads/2017/11/free-travel-spot-4.jpg)
และ "TOTO MUSEUM" พิพิธภัณท์เพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่เน้นการจัดแสดงสุขภัณท์ที่ใช้ภายในห้องน้ำที่ติดอันดับปีนี้เป็นปีแรกเช่นกัน โดยจะเป็นผลิตภัณท์แบรนด์ TOTO ที่เป็นหนึ่งในแบรนด์สุขภัณท์ที่มีเสียงชื่อและเก่าแก่มากของญี่ปุ่น โดยสร้างขึ้นเพื่อฉลองอายุครบ 100 ปีของบริษัท ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1917 และได้เปิดพิพิธภัณท์แห่งนี้เมื่อวันที่ 28สิงหาคม 2015 โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่คิตะคิวชู ฟุคุโอกะที่นี่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของธุรกิจและการพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมทั้ง บทบาทของ TOTO ในประวัติศาสตร์การประปาและวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมการประปา
แหล่งที่มาและภาพประกอบ : http://www.moshimoshi-nippon.jp/75873