เมษาปีนี้ ชวนสาว ๆ สวมกิโมโนเดินเล่นชมซากุระบานที่คานาซาวะ เมืองซึ่งได้ชื่อว่าลิตเติ้ลเกียวโต รับรองว่าฟิน!

Nagamachi Yuzen-kan (Yuzen Silk Center)

เวลาเปิด 9.00-17.00 น.

ปิดวันหยุดปีใหม่

ค่าเข้า 350 เยน

ติดต่อ โทร 076-264-2811 แฟ็กซ์ 076-221-7663

เว็บไซต์ http://www.kagayuzen-club.co.jp/

ดิฉันไม่ชอบชุดกิโมโนสีสด ๆ ที่มีลวดลายใหญ่ ๆ เยอะ ๆ อย่างที่เขานิยมใส่กันในรีวิวเที่ยววัดที่เกียวโต มันดูฉูดฉาดเกินไปสำหรับคนเรียบ ๆ แบบดิฉัน ดังนั้นกิโมโนแบบคากะยูเซ็นของคานาซาวะนี่จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว เหมือนเป็นบุพเพสันนิวาสอย่างไรอย่างนั้น ดิฉันหลงรักสีที่หม่นแต่นุ่มนวล รักลวดลายดอกไม้ใบหญ้าเล็ก ๆ ที่แตะแต้มไปทั่วผืนผ้าซึ่งเป็นเสน่ห์ของเทคนิคนี้ มันเป็นความงามแบบมินิมัล น้อยแต่มาก ที่ถูกใจตั้งแต่แรกเห็น

ชุดที่ดิฉันใส่ในวันนั้นเป็นกิโมโนสีชมพูลายดอกไม้เล็ก ๆ เจ้าหน้าที่เชียร์ชุดนี้มาก บอกว่าเข้ากับสีผิวของดิฉัน พอใส่ออกมาแล้วก็ดูหวาน รู้สึกว่าตัวเองเฉียดใกล้คำว่าสวยกับเขาบ้างก็วันนี้แหละค่ะ แต่การเช่าชุดกิโมโนที่นี่ก็ต้องเข้าใจนิดหนึ่งว่าที่นี่ไม่ใช่ร้านเช่าโดยตรงนะคะ ก็จะไม่มีบริการแต่งหน้าหรือทำผม แต่มีเครื่องประดับผมกับกระเป๋าถือให้ใช้ มีกระจกพร้อม เราสามารถทำผมง่าย ๆ เองได้ในห้องแต่งตัว แต่ถ้าสามารถแต่งหน้าทำผมไปให้พร้อมก่อนล่วงหน้าก็ยิ่งดีค่ะ
แต่งตัวเสร็จแล้ว เราก็ออกไปเดินเล่นชมดอกไม้ชมเมืองกันเลยค่ะ

ในตัวเมืองคานาซาวะนี่เที่ยวง่ายมากเลยนะ เขาแบ่งเป็นโซน สถานที่น่าเที่ยวก็กระจุกตัวอยู่ในโซนนั้น ๆ แหละ สามารถเดินเที่ยวชมได้สบาย ๆ หรือจะเดินข้ามโซนก็ได้นะคะ แต่ละโซนไม่ได้อยู่ไกลกันมาก เดินยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว แต่ถ้าไม่ชอบเดินก็มีบริการรถลูปบัส เป็นรถสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ วิ่งวนเป็นวงกลมรอบเมือง ผ่านที่เที่ยวน่าชมแทบทุกที่ในเมืองคานาซาวะ ค่ารถเที่ยวละ 200 เยน หรือจะซื้อบัตรแบบวันเดย์พาสก็ได้ ราคา 500 เยน ขึ้นรถกี่เที่ยวก็ได้ตลอดทั้งวัน รถออกทุก ๆ 15 นาที สะดวกมากค่ะ (ข้อมูลและแผนที่ป้ายรถลูปบัส ดูได้ที่: http://www.hokutetsu.co.jp/en/en_round)

สำหรับทริปนี้ ดิฉันฉายเดี่ยวค่ะ ประสาสาวโสดและสตรองมาก มีทั้งความอึดความถึกครบ เราก็จะเลือกใช้วิธีเดินค่ะ เดินช้า ๆ สวย ๆ นิ่ม ๆ แบบแม่หญิงนิปปอน เอ็นจอยชีวิตสโลว์ไลฟ์อย่างเต็มที่ ก็เรามีเวลาทั้งวันเนอะ ไม่ต้องรีบเอาชุดไปคืน สบาย ๆ

ดิฉันเริ่มโปรแกรมชมดอกไม้ที่ย่านนากามาจิ (Nagamachi) นี่ก่อนเลยค่ะ แถวนี้มีบ้านซามูไรระดับสูงและระดับกลางให้เที่ยวชมหลายหลัง มีสวนญี่ปุ่นสวย ๆ ให้เข้าไปดู หรือจะอยู่แค่ด้านนอก เดินไปตามคลองน้ำใสสายเล็ก ๆ เลียบกำแพงดินโคลนที่มีฐานเป็นหินก็ได้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในญี่ปุ่นสมัยก่อนแล้วล่ะค่ะ ยิ่งใส่ชุดกิโมโนอยู่อย่างนี้ด้วย บอกเลยว่าฟินมาก ๆ

แล้วจากนั้นเราก็มาไหว้พระขอพรที่ศาลเจ้าโอยามะจินจะ (Oyama Jinja Shrine) เสน่ห์ของศาลเจ้าแห่งนี้คือ ประตูที่สร้างด้วยศิลปะแบบญี่ปุ่น จีนและยุโรป มีความสวยงามแปลกตามากทีเดียว

จากศาลเจ้า ดิฉันเดินข้ามไปที่โซนยอดนิยมของเมือง คือปราสาทคานาซาวะและสวนเคนโรคุเอน สองที่นี้ถือเป็นไฮไลท์ ใครมาคานาซาวะแล้วไม่ได้มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงคานาซาวะนะคะ

ปราสาทคานาซาวะเป็นที่พำนักของไดเมียวตระกูลมาเอดะ เคยถูกไฟไหม้ไปครั้งหนึ่งในอดีต แต่ก็มีการบูรณะพวกป้อมปราการขึ้นมาใหม่ในเวลาต่อมา สวนของปราสาทสีขาวแห่งนี้เป็นสถานที่ชมซากุระชั้นเยี่ยมแห่งหนึ่งในเมือง คนชอบมาถ่ายรูปกัน ดิฉันก็ไม่ยอมพลาดค่ะ ชุดกิโมโนสีชมพูหวานเข้ากับปราสาทสีขาวและดอกซากุระสีอ่อนจางพอดี รูปที่ได้ไม่มีคำว่าผิดหวังเลย ฟินอีกแล้วค่ะ

บริเวณสวนปราสาทคานาซาวะเข้าชมได้ฟรี แต่ถ้าอยากชมส่วนอื่น ๆ เช่น คลังของปราสาทจะต้องเสียค่าเข้า

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่: http://www.pref.ishikawa.jp/siro-niwa/kanazawajou/e/index.html

จากสวนปราสาทคานาซาวะ ดิฉันเดินข้ามฟากมาที่สวนเคนโรคุเอน (Kenrokuen Garden) สวนนี้เป็นหนึ่งในสวนสวยที่สุดสามแห่งของญี่ปุ่น ได้รับการทำนุบำรุงเป็นอย่างดีจากไดเมียวตระกูลมาเอดะผู้ครองเมือง มีขนาดกว้าง 11.4 เฮคตาร์ เต็มไปด้วยทิวทัศน์น่าตื่นตาตื่นใจจากปัจจัย 6 ประการตามชื่อของสวน คือความไพศาล ความสงบ มีลูกเล่น ความเก่าแก่ ทางน้ำไหลและทัศนียภาพที่งดงามภายในสวน

ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในสวนก็เจอกับความตื่นตาเลยค่ะ ต้นซากุระออกดอกบานสะพรั่งสวยสุดใจ เดินเข้าไปอีกหน่อยก็เจอสระน้ำใหญ่ที่มีเกาะกลางน้ำซึ่งสร้างขึ้นเพื่อหวังให้ท่านเจ้าเมืองมีชีวิตที่ยืนยาวและเจริญด้วยลาภยศสรรเสริญไปชั่วกาลนาน สุดท้ายที่ต้องไม่พลาดก็คือการมาชมตะเกียงหินสามขาที่สร้างตามลักษณะของพิณญี่ปุ่นโคโตะ เจ้าตะเกียงหินนี่เป็นพระเอกของสวนเลยล่ะค่ะ คนก็จะมุงกันเยอะหน่อย ยิ่งในฤดูชมดอกไม้แบบนี้ด้วยแล้ว คนแห่กันมาจากทุกสารทิศ แต่คนมากก็ไม่เป็นปัญหา มีคนช่วยถ่ายรูปให้เยอะ ได้รูปสวย ๆ กลับไปเพียบ

สวนเคนโรคุเอน (Kenrokuen Garden)

เวลาเปิด 7.00-18.00 น. (8.00-17.00 น. ระหว่างวันที่ 16 ต.ค.-สิ้นเดือน ก.พ.)
เปิดตลอดปี

ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 310 เยน เด็กอายุ 6-17 ปี 100 เยน ผู้ใหญ่อายุเกิน 65 ปีเข้าชมฟรี

เว็บไซต์ http://www.pref.ishikawa.jp/siro-niwa/kenrokuen/e/index.html

เดินชมสวนจนเหนื่อยก็อยากพักดื่มชาสักนิด ที่ด้านหน้าสวนก็มีที่นั่งดื่มชานะคะ แต่คิดมามันไม่เก๋พอ ดิฉันก็เลยขอเดินมาที่ย่านร้านน้ำชาฮิงาชิจายะ (Higashi Chaya District) ดีกว่า สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งความบันเทิงของเมือง มีการร่ายรำและการเล่นดนตรีของเหล่าเกอิชาให้ชมด้วยนะคะ บ้านเรือนร้านค้าในย่านฮิงาชิเป็นอาคารไม้สองชั้น มีทางเดินแคบ ๆ ลักษณะวกวนไม่ผิดกับเขาวงกต เดินไม่ดีมีหลงได้นะเอ้า

ร้านน้ำชาที่เลือกในวันนี้คือ SHIMA ค่ะ เป็นร้านเก่าแก่ สร้างขึ้นในปี 1820 นอกจากไฟฟ้าและห้องน้ำแบบสมัยใหม่แล้ว ทุกอย่างที่นี่ก็เป็นของดั้งเดิมหมดทุกอย่าง มีห้องจัดแสดงเครื่องดนตรีและข้าวของเครื่องใช้ของเกอิชาให้ชมกัน โดยเสียค่าเข้าชม 500 เยน ถ้าจะรับชาเขียวและขนมด้วยก็เสียเงินเพิ่มอีก 700 เยนค่ะ

Ochaya SHIMA

เปิด 9.00-18.00 น. เปิดตลอดทั้งปี

ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก (อายุต่ำกว่า 16) 300 เยน

เว็บไซต์ http://www.ochaya-shima.com/english/info/info_f.html

พนักงานที่นี่น่ารักด้วยนะคะ พอเห็นดิฉันสวมชุดกิโมโนก็เอาร่มสีแดงมาให้ยืมเป็นพร็อพถ่ายรูป