Movie Review : รีวิว One Cut of The Dead ปรากฏการณ์ภาพยนตร์ซอมบี้จากญี่ปุ่น

One Cut of the Dead หรือชื่อญี่ปุ่นカメラを止めるな! เป็นหนังซอมบี้ญี่ปุ่นในปี 2017 ที่เพิ่งมาโด่งดังในระดับโลกเอาเมื่อตอนปี 2018 กับการสร้างปรากฏการณ์ต่างๆ มากมายในวงการภาพยนตร์

 

เริ่มตั้งแต่การเป็นหนังทุนตํ่าที่ใช้ทุนสร้างเพียง 3 ล้านเยน หรือ $27,000 (ราวกว่า 8 แสนบาท) แต่ทำรายได้รายได้ Box office จนถึงเดือนกันยายน 2018 2.1 พันล้านเยน  หรือ $19 ล้าน (กว่า 615 ล้านบาท) ทำกำไรถึง 700 เท่าของทุนสร้าง และมีทีท่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตัวเลขของเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา One Cut of the Dead ทำเงินทั่วโลกไปแล้วกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากเรื่องรายได้ ในเทศกาลหนัง Udine Far East Film Festival ที่อิตาลี หลังหนังจบผู้ชมประมาณ 500 คนได้ Standing ovation หรือ ลุกขึ้นยืนปรบมือให้เกียรตินานหลายนาที แถมยังกวาดรางวัลหนังยอดเยี่ยมสาขาต่างๆในหลายเวทีทั่วโลก

 

ขณะที่ในโลกออนไลน์ One Cut of the Dead ได้เรตติ้งคำวิจารณ์ว่าชื่นชอบ 100% จากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ซึ่งเป็นภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องในโลกที่ได้รับกระแสดีขนาดนี้ (หนังฮอลลีวู้ดบล็อกบัสเตอร์หรือหนังรางวัลออสการ์ส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้คะแนนสูงแบบนี้) ส่วนในเว็บไซต์ imdb ก็ให้คะแนนหนังเปิดไว้ที่  8/10 เลยทีเดียว

หนังกำกับและเขียนบทโดย อูเอดะ ชินอิจิโร่ ผู้กำกับหนังสั้นหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง กับผลงานภาพยนตร์ยาวฉายในโรงเรื่องแรกของเขา ด้านนักแสดงก็เป็นหน้าใหม่ที่แทบไม่เคยมีผลงานในวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่น อาทิ ฮามัตซึ ทากายูกิ, นากายะ คาซุอะกิ, อากิยาม่า ยูซูกิ, อิชิฮาร่า ฮิโรชิ, โฮโซอิ มานาบุ, อิชิฮาระ ฮิโรชิ, มาโอะ ฮารากูชิ มีเพียง ชูฮามะ ฮารุมิ ที่เคยรับบทตัวประกอบใน Chronicle of My Mother

 

สำหรับ One Cut of the Dead เพิ่งเข้าฉายในบ้านเราไป ได้ชื่อไทยว่า วันคัทซอมบี้งับๆๆๆ เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญและตลก ที่แบ่งพาร์ทกันอย่างชัดเจน ไฮไลท์ของหนังมีสองพาร์ทคือ พาร์ทแรกเป็นหนังซอมบี้ทุนตํ่าโปรดักชั่นบ้านๆที่โชว์เทคนิคการถ่ายทำแบบลองเทค ถ่ายซีนยาวๆแบบต่อเนื่องโดยที่ไม่มีการคัตหรือตัดต่อนาน 37 นาที ส่วนพาร์ทสองเป็นหนังตลกที่ย้อนไปเล่าถึงที่มาและเบื้องหลังการถ่ายทำของหนังซอมบี้ในพาร์ทแรก

 

One Cut of the Dead เปิดกล้องขึ้น ณ คลังสินค้าแห่งหนึ่ง โดยทีมงานกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ซอมบี้ระทึกขวัญ แต่สถานที่แห่งนี้ ไม่ใช่คลังสินค้าทั่วไป มีตำนานเล่าว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของการทดลองอะไรสักอย่างทางทหารตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีใครรู้ว่า มันคือการทดลองอะไร? ในระหว่างที่ถ่ายทำ พวกเขาได้พบกับซอมบี้ที่แท้จริง ทำให้พวกเขาต่างต้องหนีตายเพื่อเอาตัวรอด!

ทั้งนี้ 37 นาทีแรก คนดูจะได้พบกับ หนังซอมบี้บ้าบอ ที่ถ่ายทำไปเรื่อยๆแบบ Non Stop เนื้อหาค่อนข้างซีเรียส ซึ่งมีความไม่สมบูรณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พล็อตดาดๆ ตัวละครกับบทพูดแปลกๆ ซีนประหลาดๆ ไม่สมเหตุผล โปรดักชั่นกากๆไล่เรียงตั้งแต่ เสื้อผ้าหน้าผมนักแสดง เลือดปลอมๆ และมุมกล้องที่สะดุด น่าเวียนหัวในบางช็อต จากการถ่ายทำแบบแฮนด์เฮลด์ (ตากล้องถือกล้องวิ่งตามนักแสดง) แต่ในความวายป่วงนั้น หนังให้อารมณ์ที่ค่อนข้างสมจริงจนเราเชื่อและสนุกกับมันอยู่พอสมควร

 

ขณะที่หลังจากจบหนังสั้นซอมบี้ ภาพยนตร์ได้เปลี่ยนทิศทางและแนวมาเป็นหนังตลกที่ว่าด้วยชีวิตของคนในกองถ่ายหนังสั้นเรื่องนี้ ซึ่งมีความวุ่นวายมากมาย ทั้งครอบครัวผู้กำกับที่ลูกสาวกำลังจะแยกออกไปอยู่นอกบ้าน ส่วนภรรยาที่เป็นอดีตนักแสดงกำลังเบื่อชีวิตแม่บ้าน กลุ่มนักแสดงที่เอาแต่ใจ ทีมงานที่ไม่ค่อยมืออาชีพ ทำให้ตลอดเวลาของการถ่ายทำมีปัญหาร้อยแปดเข้ามาให้พวกเขาแก้ไข กับโจทย์ที่ยากขึ้นไปอีกขั้นคือ ถ่ายแบบลองเทคแถมออกอากาศแบบสดๆทางทีวี เรียกว่าไม่มีโอกาสให้แก้ตัวกันเลยทีเดียว

ในแง่ของหนัง One Cut of the Dead มีเสน่ห์และโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว หนังสั้นช่วงแรกอาจจะสร้างความสับสนให้คนดูไปบ้าง แต่สามารถปูทางมาสู่หนังยาวในช่วงกลางถึงท้ายของเรื่องจนผสานเข้าเป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ความเป็นหนังซ้อนหนังไม่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าใจของคนดู ผู้กำกับสร้างจังหวะในการเล่าเรื่องที่ออกมาลงตัว แถมยังทยอยปล่อยความลับต่างๆได้ถูกที่ถูกเวลา ระหว่างที่ดูหนังยาว จึงมีช่วงที่ทำให้คนดูย้อนกลับไปคิดถึงฉากต่างๆในหนังสั้นลองเทคที่เพิ่งดูจบไปเป็นระยะๆ (บทภาพยนตร์ครีเอทมาก โลเคชั่นหนังเจ๋งสุดๆ) จุดที่สร้างความสงสัยในหนังสั้นที่คล้ายจะเป็นความบกพร่องได้รับการเฉลยในช่วงต่อมา นอกจากจะสร้างความกระจ่างแล้ว ยังเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างดี ที่น่าปรบมือให้อีกอย่างคือฝ่ายคอนตินิวของหนัง ซึ่งต้องพยายามเชื่อมหนังสองเรื่องที่ถ่ายทำกันคนละเวลา ให้ดูเหมือนว่าถ่ายทำพร้อมกันในเวลาเดียว โดยไม่ให้คนดูจับผิดได้ ขณะเดียวกันตัวหนังเองก็กำลังเปิดเผยเบื้องหลัง เทคนิค ขั้นตอน วิธีการถ่ายทำ และหลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้ชมบางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

หัวใจสำคัญของภาพยนตร์ ผู้กำกับต้องการสื่อให้ผู้ชมได้เข้าถึงความหมายของคำว่า The Show Must Go On และ Teamwork กลุ่มคนที่น่าจะอินกับ One Cut of the Dead ที่สุดก็คือ คนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์ในทุกๆตำแหน่งและนักศึกษาวิชาภาพยนตร์ทั่วโลก เชื่อว่าในอนาคตหนังเรื่องนี้จะเป็นอีกเรื่องที่ถูกเปิดในคลาสเรียนวิชาภาพยนตร์ เนื่องจากหนังเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์และความสดใหม่ ด้านคนดูทั่วไปเอง ก็มีสิ่งที่ให้เทียบเคียงกับหนังเรื่องนี้ได้เช่นกัน บางคนอาจคิดถึงความทรงจำในอดีตสมัยทำโปรเจกต์สนุกกับเพื่อนๆตอนเรียนมหาลัยหรือมัธยม บางคนอาจคิดถึงความฝันที่ตัวเองเคยทำในตอนวัยรุ่น บางคนอาจคิดถึงงานที่ตัวเองทำในปัจจุบัน บางคนอาจคิดถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับครอบครัว

 

One Cut of the Dead มีความบ้าพลังอย่างสูงใน 37 นาที ก่อนที่จะเปลี่ยนโหมดเป็นหนังล้อเลียนที่มีความสนุกสนานอลเวง รวมถึงแฝงแง่คิดเกี่ยวกับการทำงานและชีวิตครอบครัวได้อย่างน่าสนใจ จนทำให้คนดูหลงรักได้ในที่สุด ซึ่งนี่อาจเป็นภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่คุณเผลอนั่งชมเอนเครดิตในโรงหนังจนจบด้วยรอยยิ้ม และตัวหนังยังได้รับการพูดถึงอย่างมากในญี่ปุ่น จนหลายประเทศทั่วโลกทยอยซื้อลิขสิทธิ์ไป

วันคัทซอมบี้งับๆๆๆ One Cut of the Dead カメラを止めるな (2017)

 

ตัวอย่างหนัง

 

ผู้กำกับ : อูเอดะ ชินอิจิโร่ Ueda Shin'ichirô (上田慎一郎)

 

นักแสดง : ฮามัตซึ ทากายูกิ Hamatsu Takayuki (濱津隆之), อากิยาม่า ยูซูกิ Akiyama Yuzuki (秋山ゆずき), นากายะ คาซุอะกิ Nagaya Kazuaki (長屋和), อิชิฮาร่า ฮิโรชิ Ichihara Hiroshi (市原洋), ชูฮามะ ฮารุมิ Shuhama Harumi (しゅはまはるみ), มาโอะ ฮารากูชิ Mao Higurashi (真魚)

 

แหล่งที่มา :

ja.wikipedia.org

uk.businessinsider

FOLLOW US ON
FACEBOOK