Movie Review : รีวิว Sunny วันนั้นวันนี้เพื่อนกันตลอดไป

Sunny : Our Hearts Beat Together (強い気持ち・強い愛) มีชื่อไทยว่า วันนั้นวันนี้เพื่อนกันตลอดไป เป็นภาพยนตร์แนวคอเมอดี้ดราม่าปนโรแมนติกที่ถ่ายทอดเรื่องราวของแก๊งเพื่อนสาวสุดซี้วัยมัธยมปลายในยุค 90 ที่กลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 20 ปี จากการเขียนบทภาพยนตร์พ่วงกำกับของ ฮิโตชิ โอเนะ จาก Bakuman หนังดัดแปลงมาจากภาพยนตร์เกาหลีชื่อ Sunny ในปี 2011 ควบคุมการสร้างโดย เก็งคิ คาวามุระ โปรดิวเซอร์ผู้สร้าง Your Name

ขณะที่ในส่วนนักแสดงก็น่าสนใจ เพราะได้นักแสดงสาวรุ่นใหม่อย่าง  ฮิโรเสะ ซึสึ จาก Our Little Sister, ยามาโมโตะ ไมกะ จาก After the Rain, อิเคดะ เอไลซา จาก Relife , โทมิตะ มิอุ จาก Switched , ทานาเบะ โมโมโกะ จาก Love and Lies และ โนดะ มิโอะ จาก Inuyashiki มาเล่นเป็นนักเรียนสาวยุค 90 ร่วมด้วย ฮารุมะ มิอุระ จาก Sky of Love ที่รับบทเป็นรุ่นพี่สุดหล่อ

ในทางกลับกันในยุคปัจจุบันได้กลุ่มนักแสดงสาวรุ่นใหญ่หลายคนมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็น ชิโนฮาระ เรียวโกะ จาก Kamikaze Girls, อิทายะ ยูกะ จาก Closed Note, วาตานาเบะ นาโอมิ จาก R100, โทโมซากะ ริเอะ จาก Oh My Zombie!, โคอิเกะ เอโกะ จาก Cape Nostalgia มาเล่นเป็นกลุ่มสาวสูงวัยที่กำลังเจอกับปัญหาชีวิตในทางที่ห่างกันไป เสริมทีมด้วย แฟรงกี้ ลิลี นักแสดงหนุ่มจอมเก๋ามากความสามารถจาก Shoplifters

เรื่องย่อ Sunny เล่าถึง นามิ แม่บ้านในกรุงโตเกียวที่มีชีวิตแสนจะจำเจ เธอไม่ค่อยได้ติดต่อกับเพื่อนเก่าเท่าไหร่ จนวันหนึ่งบังเอิญได้พบกับ เซริกะ เพื่อนเก่าหัวหน้าแก๊งซันนี่ในวัยมัธยมปลาย ที่โรงพยาบาล แต่ เซริกะ ได้บอกข่าวร้ายกับ นามิ ว่าเธอเป็นมะเร็งและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ความปรารถนาสุดท้ายก่อนจากโลกนี้ไปก็คือ อยากเจอเพื่อน ๆ แก๊ง SUNNY ทุกคนอีกครั้ง  เมื่อรู้อย่างนั้นแล้ว นามิ เลยพยายามติดต่อเพื่อนๆอีก 4 คนที่เหลือให้กลับมารวมตัวกันครบ 6 คนอีกครั้ง เพื่อหวนคืนความทรงจำที่พวกเธอทุกคนมีต่อกันก่อนที่ เซริกะ จะจากโลกนี้ไป

หนังเล่าเรื่องราวตัดสลับไปมาระหว่างปี 1990 และ 2018 ถ่ายทอดเรื่องราว มิตรภาพ ความรัก ความผูกพัน ของกลุ่มเพื่อนสาวที่เคยสนิทแน่นแฟ้นในช่วงวัยรุ่น แต่เวลาผ่านไป 20 ปี พวกเขาก็แยกย้ายไปใช้ชีวิตตามทางของตัวเอง ไม่ได้เจอกันเลย เนื้อหาเล่นกับความ Nostalgia หรือโหยหาอดีต โดยมีกิมมิกคือการนำเสนอ แฟชั่น การแต่งตัว เพลง และ ไลฟ์สไตล์ของสาวญี่ปุ่นในยุค 90 ยุคที่หลายต่อหลายคนคิดถึง เพราะเต็มไปด้วยเสน่ห์ สมัยที่เทคโนโลยียังไม่เข้ามามีผลต่อชีวิตประจำวัน เราจึงรู้สึกว่าความสัมพันธ์กับผู้คนในยุคนั้นเต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป 22 ปี ตัวละครแต่ละตัวดูจะมีความสุขน้อยกว่าตอนที่พวกเธอยังเป็นสาวๆ กลุ่มซันนี่จึงรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้นึกถึง ถุงเท้าหลวมๆ หรือ ลูสซ็อก เพลงเจป็อปเพราะๆ การเต้นโคเวอร์ เพจเจอร์ ตู้สติกเกอร์ ห้องคาราโอเกะ ฯ ที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูง ทว่าตอนนี้ก็สูญหายไปตามกาลเวลา รวมถึงมีการเปรียบเทียบวิถีชีวิตของสาววัยุร่นสองยุค จุดนี้ผู้กำกับนำเสนอออกมาได้น่าสนใจ หนังสร้างเสียงหัวเราะ สลับกับ เรียกนํ้าตา ผ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ความฝัน รักแรก อกหัก และมิตรภาพของเพื่อนสนิท

ในส่วนของการแสดง ฮิโรเสะ ซึสึ โดดเด่นที่สุดในบท นามิ ยุค 90 เธอสดใส แต่ก็เล่นใหญ่จัดเต็มทั้งฉากตลกไปจนถึงฉากดราม่า ด้าน ชิโนฮาระ เรียวโกะ ก็ทำได้ดีกับการเล่นเป็น นามิ ยุคปัจจุบัน ส่วนสองนักแสดงที่สร้างสีสันให้หนัง โดยเฉพาะพาร์ทคอเมอดี้ก็คือ วาตานาเบะ นาโอมิ พิธีกรสาวและนักแสดงร่างท้วม กับบท อูเมะ กับ แฟรงกี้ ลิลี ที่แสดงเป็นนักสืบซึ่งช่วยตามหากลุ่มเพื่อนๆให้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ด้าน ฮารุมะ มิอุระ เองก็โผล่มาแบบเท่ห์ๆ ให้คนดูสาวๆ ได้ชุ่มชื่นหัวใจเป็นระยะ และเติมเต็มในส่วนของพาร์ทโรแมนติกเล็กๆ ให้กับหนัง

Sunny อาจจะเป็นหนังที่มีความเป็นผู้หญิงสูงไปสักหน่อย สาวๆ ที่เคยหลงใหลวัฒนธรรม แฟชั่นของญี่ปุ่นในยุค 90 น่าจะอินมากๆ แต่ผู้ชมผู้ชายก็สามารถเชื่อมโยงกับหลายๆ ส่วนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ความน่ารักของนักแสดงสาว เพลง การ์ตูน การแต่งตัว ในอดีต แต่ที่แน่ๆ คือไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายวัยไหน เมื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบแล้ว คุณจะอยากกดมือถือโทรหาเพื่อนเก่า หรือ กลับไปค้นรูปถ่าย สมุดเฟรนด์ชิพ ชุดนักเรียน ที่บ้านออกมาดูอีกครั้ง เหมือนกับคำโปรยของหนังที่ว่า “การออกตามหาเพื่อนรักที่หายไป อาจเป็นการเติมเต็มหัวใจให้คุณโดยไม่รู้ตัว”

วันนั้นวันนี้เพื่อนกันตลอดไป Sunny : Our Hearts Beat Together 強い気持ち・強い愛 2018

ผู้กำกับ :  ฮิโตชิ โอเนะ  : One Hitoshi (大根仁)

นักแสดง : ฮิโรเสะ ซึสึ : Hirose Suzu (広瀬 すず), ชิโนฮาระ เรียวโกะ : Shinohara Ryoko (篠原涼子), อิทายะ ยูกะ : Itaya Yuka  (板谷由夏)