เตรียมพบกับ Illumination ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่ Huis Ten Bosch นางาซากิ (Nagasaki)

รู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็เดินทางมาถึงช่วงสิ้นปีอีกครั้ง และเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองกำลังจะใกล้เข้ามาอีกแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องมาดูให้ได้ในช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นก็คือการประดับไฟ หรือ Illumination นั่นเอง แต่คราวนี้แบบธรรมดาเราไม่ไปค่ะ เพราะเราจะพาไปงานเทศกาลประดับไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แถมได้รางวัลมา 7 ปีซ้อน เรากำลังพูดถึง Huis Ten Bosch ที่จังหวัดนางาซากิค่ะ จะยิ่งใหญ่และน่าไปขนาดไหนเราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

เหตุผลที่งานประดับไฟของ Huis Ten Bosch มีความยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็เพราะมีการใช้ดวงไฟมาประดับมากถึง 13 ล้านดวง ด้านในประกอบไปด้วยจุดที่ต้องมาเช็คอินหรือถ่ายรูป รวมไปถึงการแสดงแสงสีเสียงอีกนับไม่ถ้วน

WISHES WONDERLAND

สิ่งที่พิเศษสุด ๆ ในปีนี้ก็คือเขามีการเปิดตัวโซนใหม่ที่ชื่อว่า Wishes Wonderland เป็นโบสถ์สไตล์โกธิคประดับด้วยไฟสีขาวดูสว่างเจิดจรัสกว่าจุดไหน ๆ ด้านในดีไซน์ได้เหมือนโบสถ์ของจริง มีไซส์เล็ก ๆ แต่น่ารัก เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาขอพรหรือเขียนจดหมายถึงพระเจ้าเพื่อความสุขสมหวังในปีใหม่ที่จะถึงนี้

ART GARDEN

บริเวณ Art Garden นั้นถูกเนรมิตสวนทั้งสวนให้เป็นโลกแห่งแสงไฟ มองไปทางไหนก็จะได้เห็นแสงหลากสีสันระยิบระยับอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเข้ากันได้ดีกับหอคอย Domkerk สูงกว่า 150 เมตรที่อยู่ด้านหลัง

ไฮไลท์ของ Art Garden ที่ต้องมาถ่ายรูปให้ได้ก็คือ “น้ำตกแห่งแสงไฟ” มีความกว้างกว่า 60 เมตร เป็นการใช้เทคนิคที่เนรมิตให้อาคารกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ แนะนำให้ขึ้นไปถ่ายรูปบนระเบียงที่ทางสวนจัดเอาไว้ให้จะได้เห็นความสวยงามของน้ำตกแห่งแสงไฟนี้แบบเต็ม ๆ ตา

PALEIS HUIS TEN BOSCH

จุดต่อมาคือส่วนของ พระราชวัง Huis Ten Bosh (Paleis Huis ten Bosch) ตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต่างตั้งตารอกันทุกปีเพราะมีการจัดแสดงแสงสีเสียง 3D Projection Mapping เป็นการใช้เทคนิคพิเศษฉายแสงโดยไปบนตัวอาคารพระราชวังซึ่งมีความยาวกว่า 110 เมตรเลยทีเดียว อลังการและสวยงามมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจุดนี้ถึงมีคนมาดูกันเยอะมาก

นอกจากนี้บริเวณสวนด้านหน้าพระราชวังก็อลังการไม่แพ้กัน เพราะเขามีโชว์ที่ชื่อว่า Jewelry Illumination Show โชว์แสงสีเสียงในสวนสไตล์ยุโรปหน้าพระราชวัง ระหว่างรอโชว์ 3D ของพระราชวังเริ่มก็สามารถดูโชว์ในสวนนี้ก่อนได้

WHITE FERRIS WHEEL

ดูโชว์และถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ เสร็จแล้วก็อย่าลืมขึ้นมานั่งเล่นบนชิงช้าสวรรค์สีขาว (White Ferris Wheel) ที่สามารถมองเห็นวิวของ Huis Ten Bosch ได้ทั้งหมดแบบเต็ม ๆ ใครที่มากับคนรักบอกเลยว่าตรงนี้โรแมนติกมาก ๆ

HOTEL EUROPE

Huis Ten Bosch ใหญ่ขนาดนี้บอกเลยว่ามาแค่วันเดียวมันไม่พอหรอกค่ะ ขอแนะนำให้จองห้องพักที่ Hotel Europe เพราะนอกจากด้านนอกจะตกแต่งเป็นสไตล์บ้านริมคลองเหมือนในอัมสเตอร์ดัม ในประเทศเนเธอร์แลนด์แล้ว ด้านในยังวิวดี สามารถมองเห็น Huis Ten Bosch ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นโลกแห่งแสงไฟได้ด้วย

เป็นอย่างไรบ้างคะ แค่ในรูปยังอลังการขนาดนี้ แล้วของจริงจะสวยงามขนาดไหน จุดต่าง ๆ ที่เรานำมาแนะนำให้เพื่อน ๆ กันในวันนี้มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ของจริงยังมีอีกหลายจุดเลยที่ต้องไปถ่ายรูปและเช็คอินให้ได้ หน้าหนาวนี้ถ้ายังไม่รู้จะไปชมไฟที่ไหนลองแวะไปเก็บภาพความทรงจำแสนโรแมนติกและน่าประทับใจที่ Huis Ten Bosch ดูไหมคะ