อยาก Slow life ที่ญี่ปุ่นต้องมาเมืองนี้ ! แนะนำ 5 เมืองแสนสงบสำหรับท่องเที่ยวในวันสบาย ๆ

เดี๋ยวนี้เราสามารถไปญี่ปุ่นบ่อย ๆ ได้ตามใจอยากประหนึ่งไป-กลับ กรุงเทพฯ และพัทยา เพราะตั๋วเครื่องบินราคาเบา ๆ และเที่ยวบินที่มีให้เลือกมากมาย แต่จะให้ไปแต่เมืองซ้ำ ๆ เดิม ๆ มันก็เบื่อ แถมคนยังเยอะอีกด้วย เดี๋ยวนี้เทรนด์การท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์กำลังมาแรง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเช็คอิน 5 เมืองแสนสงบสำหรับวันสบาย ๆ ในญี่ปุ่นกันค่ะ

INE | KYOTO

สำหรับสายโซเชียล หรือสายฮิปสเตอร์อาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วกับ อิเนะ (Ine) หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ทางทิศเหนือของจังหวัดเกียวโต เมืองนี้ถือเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ที่แท้จริง ด้วยความที่ตั้งอยู่กลางทะเล ตัดขาดจากฝั่งเมืองโดยสิ้นเชิง แต่รับรองเลยว่าหากมาแล้วเพื่อน ๆ จะได้เห็นเสน่ห์ของเมืองนี้ที่แทรกซึมอยู่ตามบ้านเรือนชาวประมงอย่างแท้จริง รวมไปถึงวิถีชีวิตสไตล์ชาวประมงของที่นี่แบบไม่มีแต่งเติม

เห็นแบบนี้ที่นี่ก็มีร้านคาเฟ่นะจ๊ะ ที่ อิเนะคาเฟ่ (Ine Café) เพื่อน ๆ สามารถนั่งจิบกาแฟ ชิมขนมหวานไปพร้อม ๆ กับชมความสวยงามของอ่าวอิเนะผ่านหน้าต่างบานใหญ่ของคาเฟ่ไปด้วยได้ เรียกได้ว่าตอบโจทย์สายฮิปสุด ๆ ไปเลย

ที่ตั้ง :

- Ine Village : Yoza, Kyoto

- Ine Café : 593-1 Hirata, Ine, Yoza, Kyoto

เวลาทำการ Ine Café : วันจันทร์-ศุกร์ 11:00-16:45 น. / วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:00-16:45 น.

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Amanohashidate ต่อรถบัสมุ่งหน้าไปยัง Ine หรือ Kamanyu หรือ Kyougamisaki ลงป้าย Inewan-meguri Hide

แผนที่ :

- Ine Village : https://goo.gl/maps/xbCPbxt9EGJzwN197

- Ine Café : https://goo.gl/maps/4AnhE5x6quhDhJRm9

จังหวัดโทยามะ (Toyama) จริง ๆ แล้วเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งเส้นทางรถไฟสายทาเทะยามะ คุโรเบะ อัลไพน์ (Tateyama Kurobe Alpine Route) รวมไปถึงมรดกโลกทางวัฒนธรรมอย่างเมืองโกคะยามะ (Gokayama) หลังจากเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ครบหมดแล้ว เราอยากให้เพื่อน ๆ มาเห็นความเป็น “เมืองแห่งแก้ว” ที่สั่งสมชื่อเสียงมากว่า 30 กว่าปีของจังหวัดนี้กันค่ะ

เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ มาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะจากแก้วแห่งโทยามะ (Toyama Glass Art Museum) ซึ่งตั้งอยู่ในอาคาร โทยามะคิราริ (Toyama Kirari) ด้านในอาคารมีการประดับตกแต่งให้มีความระยิบระยับสมกับที่เป็นพิพิธภัณฑ์แก้ว ในขณะเดียวกันงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงก็ล้วนน่าสนใจทั้งนั้น ยังไงก็ห้ามพลาดเลยเด็ดขาด

ที่ตั้ง : 5-1 Nishicho, Toyama

เวลาทำการ : 9:30-18:00 น. (วันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เปิดถึง 20:00 น.)

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 200 เยน (ประมาณ 56 บาท) เด็กนักเรียนเข้าชมฟรี

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Toyama ต่อรถบัสมุ่งหน้าไปยัง Nishi Toyama Eki-mae ลงที่ป้าย Nishicho เดินต่ออีก 1 นาที

แผนที่ : https://goo.gl/maps/n2AVawJ3MzGRKTF78

http://toyama-glass-art-museum.jp/

หากไปจังหวัดทตโตริ (Tottori) ก็ต้องห้ามพลาดทะเลทรายอันกว้างใหญ่แห่งจังหวัดทตโตริ (Tottori Sand Dunes) ที่มีการผสมผสานความต่างของธรรมชาติไว้อย่างลงตัวมาก ๆ เพราะมีทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาลอยู่ติดกับทะเลของญี่ปุ่น เมื่อถ่ายรูปออกมาได้วิวภาพรวมที่สวยสุด ๆ ทำให้ได้รับรู้ถึงพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่แบบเต็ม ๆ

หากใครหิวก็ขอแนะนำให้มาที่ร้านโยชิกิ (Yoshiki) ร้านซูชิชื่อดังของที่นี่ และที่ต้องมาทานให้ได้เลยคือเมนูดงบุริ หรือข้าวหน้าต่าง ๆ ทางร้านแนะนำให้สั่งซึเคะอะนะด้ง (Tzukeana Don) ที่เสิร์ฟมาอย่างอลังการด้วยปลาสด ๆ รสหวาน ๆ พร้อมท็อปปิ้งอีกมากมาย

ที่ตั้ง:

- Tottori Sand Dunes: 2164-661 Fukubecho Yuyama, Tottori

- Yoshiki : 4 Chome-12-15 Doshomachi, Yonago, Tottori

เวลาทำการ Yoshiki : 11:30-13:30 และ 17:30-22:00 น.

การเดินทาง :

- Tottori Sand Dunes : จากสถานีรถไฟ Tottori ต่อรถบัส Kirin Jishi Loop Bus

- Yoshiki : จากสถานีรถไฟ Higashiyama Koen เดินต่ออีก 17 นาที

แผนที่ :

- Tottori Sand Dunes : https://goo.gl/maps/PZ3dyDvmfsGPKyDWA

- Yoshiki : https://goo.gl/maps/VcfMqmRWm4szaZGq5

เมืองมัทสึเอะ (Matsue) ตั้งอยู่ในจังหวัดชิมาเนะ เมืองนี้เองก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายอย่างเช่นเกาะต่าง ๆ หรือที่โด่งดังมาก ๆ เลยคือปราสาทมัทสึเอะ (Matsue Castle) ที่นี่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมากมาย แต่ที่อยากให้เพื่อน ๆ ไปชมกันให้ได้คือ พิพิธภัณฑ์จังหวัดชิมาเนะ (Shimane Art Museum)

อาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งหันหน้าออกไปยังบริเวณทะเลสาปชินจิ (Lake Shinji) มีการออกแบบตึกที่เก๋ไก๋ด้วยธีมที่ให้ความสำคัญกับการหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำ จะเห็นได้จากตัวอาคารที่เป็นกระจกทั้งหมด หากยืนในองศาดี ๆ เราจะได้เห็นเงาสะท้อนของพื้นน้ำบนผนัง ทำให้ดูเหมือนตัวตึกและภาพวิวทะเลสาบนั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน

พิกัด : 1-5 Sodeshicho, Matsue, Shimane

เวลา : เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ 10:00-18:30 น. / เดือนมีนาคม-กันยายน 10:00-หลังพระอาทิตย์ตกดินประมาณ 30 นาที *หยุดทุกวันอังคาร และช่วง 28 ธันวาคม – 1 มกราคม

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300-1,000 เยน (ประมาณ 84-300 บาท) เด็ก 300-600 เยน (ประมาณ 84-168 บาท)

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Matsue 15 นาที

แผนที่ : https://goo.gl/maps/q1FZLrNCstGSNvEH8

https://www.shimane-art-museum.jp/

และสถานที่สุดท้ายเราจะพาเพื่อน ๆ มาที่ รกคะ โนะ โมริ (Rokka no Mori) เป็นสวนป่าที่สวยงามอย่างกับในเทพนิยาย ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวและศูนย์ของฝากอันแสนโด่งดังอย่าง รกคะเท (Rokkatei : 六花亭) ในจังหวัดฮอกไกโด หากใครยากมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติพร้อมกับเลือกซื้อของฝากก็สามารถมาที่นี่ได้

รกคะ โนะ โมริ เป็นสวนป่ามีพื้นที่กว่า 1 แสนตารางเมตร จุดเด่นและมุมถ่ายรูปที่ต้องมาเห็นให้ได้เลยคือบริเวณธารน้ำเล็ก ๆ ที่ตัดผ่ากลางระหว่างพื้นสีเขียวขจี นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ สวนยังมีแกลลอรี่ต่าง ๆ เปิดให้ไปเข้าชมอีกด้วย โดยเฉพาะแกลลอรี่ที่ทั้งผนังและเพดานวาดตกแต่งด้วยลายดอกไม้เหมือนกัน น่ารักมาก ๆ

พิกัด : 249-6 Tokiwa West 3 Line, Nakasatsunai Village, Kasai-gun, Hokkaido 089-1300, Japan

เวลา : ปลายเดือนเมษายน - ปลายเดือนกันยายน 10:00-17:00 น. / เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 9:00-17:00 น./ ปลายเดือนกันยายน-กลางเดือนตุลาคม 10:00-16:00 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน (ประมาณ 140 บาท) เด็กนักเรียน 300 เยน (ประมาณ 84 บาท)

การเดินทาง :จากสถานีรถไฟ JR Obihiro ขับรถยนต์ไปอีก 40 นาที

แผนที่ : https://goo.gl/maps/jyCFpK167saLfXs27

http://www.rokkatei.co.jp/facilities/index2.html

Writer :: Haruna_SP

หลังจากไปเรียนแลกเปลี่ยนที่โตเกียวมาเป็นเวลา 1 ปีเต็มก็หอบเอาประสบการณ์ในญี่ปุ่นทั้งหมดกลับมาเรียนต่อเป็นนิสิตชั้นปีที่ 5 นิสิตเอกญี่ปุ่น คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งเรื่องเที่ยว ไบต์ ที่ช็อปปิ้ง แฟชั่น การใช้ชีวิต คาเฟ่เก๋ๆ รวมไปถึงคลังรูปนับพันที่ตะบี้ตะบันถ่ายกลับมาด้วยกล้องคู่ใจ และมีแนวโน้มว่ามันจะต้องเพิ่มเป็นหมื่นเป็นแสนแน่ๆ หลังจากนี้ !