5 จุดในญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ โอ้ โรแมนติกอย่าบอกใคร

ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า Unkai หมายถึงทะเลเมฆ (Sea of clouds) เป็นทัศนียภาพที่สวยจับตาซึ่งเกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของหมู่เมฆ นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนสถานที่ที่สามารถชมทะเลเมฆได้เพราะนอกจากสวยจับตาจับใจแล้วยังโรแมนติกเหลือหลายเชียวล่ะค่ะ

แม้ว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทะเลเมฆจะเป็นในช่วงเดือนที่มีอากาศหนาวเย็นอย่างในฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาว แต่ก็มีบางสถานที่ที่เพื่อนๆ สามารถชมทะเลเมฆได้ในช่วงต้นฤดูร้อนนะคะ เราเลยจะขอแนะนำสถานที่ 5 แห่งให้เพื่อนๆ มาร์คเอาไว้สำหรับไปชมวิวสวยๆ ของทะเลเมฆได้ในช่วงต้นฤดูร้อนค่ะ

 

1. Unkai Terrace (Hokkaido)

จุดที่ชมทะเลเมฆได้อยู่ใน Hoshino Resorts TOMAMU ในจังหวัดฮอกไกโด ที่ระดับความสูง 1,088 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถไปถึงได้โดยใช้ลิฟท์กอนโดลา ถ้าไปตอนเช้าตรู่จะมีโอกาสเห็นทะเลเมฆได้ถึง 40% เลยค่ะ ที่ TOMAMU นี่มีวิวแบบเฉพาะของทะเลเมฆด้วยนะคะ เห็นได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น อย่างเช่น Pacific Ocean-grown เป็นทะเลเมฆแบบที่หมู่เมฆเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา หรือแบบ Adverse weather ซึ่งเป็นทะเลเมฆที่เกิดเฉพาะเวลาอากาศไม่ดี เป็นวิวที่สวยงาม ไม่ควรพลาดชมด้วยประการทั้งปวงค่ะ

ค่าลิฟท์กอนโดลา ผู้ใหญ่ 1,900 เยน / เด็กนักเรียนประถม 1,200 เยน / สัตว์เลี้ยง 500 เยน

ระยะเวลาชมทะเลเมฆ ตั้งแต่ 12 พฤษภาคม 2561 – 15 ตุลาคม 2561

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ Unkai Terrace ดูที่นี่ https://www.snowtomamu.jp/summer/en/unkai/

 

2. SORA Terrace (Nagano)

Sora Terrace ตั้งอยู่ที่ Kitashiga Ryuoo Mountain Park เป็นจุดที่มีอัตราการเห็นทะเลเมฆสูงที่สุดที่ 67% ณ ความสูง 1,770 เมตรที่ยอดเขา Ryuoo มวลเมฆที่กระจายตัวอยู่เบื้องล่างนั้นดูราวกับเป็นคลื่นในทะเลและมียอดเขาสูงโผล่ทะลุพื้นผิวเมฆขึ้นมาเหมือนเป็นเกาะเล็กๆ เป็นภาพที่น่าชมมากเลยค่ะ โดยเฉพาะในตอนเย็นเมื่อพระอาทิตย์กำลังตก แสงสียามอาทิตย์อัสดงจะเล่นล้อกับหมู่เมฆเกิดเป็นทัศนียภาพสวยงามโดดเด่นน่าพิศวง

ค่าโดยสารกระเช้าลอยฟ้า ตั๋วไป-กลับ ผู้ใหญ่ 2,300 เยน / เด็ก 1,200 เยน / ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) 2,200 เยน

ระยะเวลาชมทะเลเมฆ ตั้งแต่ 9 มิถุนายน 2561 ถึงปลายเดือนตุลาคม (ช่วงที่เห็นทะเลเมฆได้อยู่ระหว่างเวลาราว 9-10.30 น. และราว 16-17.00 น.)

วันปิดทำการ ระหว่าง 2-6 กรกฎาคม และ 3-7 กันยายน

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ Sora Terrace ดูที่นี่ http://www.snowjapan.com/japan-ski-resorts/ryuoo-ski-park

 

3. Shibu Toge (Gunma)

Shibu Toge เป็นเส้นทางถนนเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดนางาโนะและจังหวัดกุนมะซึ่งมีระดับความสูงที่ 2,172 เมตร สูงที่สุดในญี่ปุ่นเลยค่ะ เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงมาก สามารถชมความงามของพื้นที่ชุ่มน้ำ Yoshigadaira ซึ่งจะมีทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล จุดนี้เป็นจุดรวมช่างภาพก็ว่าได้ค่ะ เพราะสามารถเห็นทะเลเมฆได้ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม หากโชคดีก็อาจจะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิโผล่พ้นมวลเมฆขึ้นมาด้วยนะคะ ที่นี่มีลานจอดรถให้ด้วย นักท่องเที่ยวสามารถขับรถมาจอดและดื่มด่ำความสวยงามของทิวทัศน์บนถนนสายนี้ได้อย่างสะดวกสบายค่ะ แต่ประมาณช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนเมษายน ถนนอาจปิดเพราะหิมะตกหนักได้นะคะ ถ้าจะมาในช่วงนี้ก็ต้องเช็คนิดนึงนะคะจะได้ไม่ต้องเสียเที่ยวค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shibu Toge และ Yoshigadaira สามารถเข้าไปดูที่เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดกุนมะ (Mt.Kusatsu-Shiranesan) https://www.visitgunma.jp/en/saijiki/autumn.php#header-bg หรือที่เว็บไซต์สมาคมการท่องเที่ยวคุสะสึ ออนเซ็น https://www.kusatsu-onsen.ne.jp/guide/en/sight/

 

4. Chichibu Muse Park Observatory (Saitama)

เป็นอุทยานธรรมชาติที่อยู่ใกล้กับโตเกียวแค่นิดเดียว นับเป็นสถานที่ชมทะเลเมฆที่ยอดเยี่ยมแห่งหนึ่งทีเดียวค่ะ สามารถชมวิวแบบพานอรามาได้ที่ระดับความสูง 363 เมตร ช่วงที่เหมาะสมจะชมทะเลเมฆคือประมาณเดือนพฤศจิกายน เวลาที่มีแนวโน้มจะเกิดมักจะอยู่ในช่วงระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงราวๆ เจ็ดโมงเช้า แต่ก็สามารถชมทะเลเมฆได้ในช่วงเดือนอื่นเช่นกันค่ะ อย่างในเดือนเมษายนก็มีโอกาสเกิดทะเลเมฆมากกว่า 20% นอกจากนั้นก็ยังมีจุดชมวิวอีกแห่งคือ Tabidachi no Oka ซึ่งอยู่ใกล้กับลานจอดรถให้เราสามารถชมทะเลเมฆได้ด้วยค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ Chichibu Muse Park ดูที่นี่ http://www.muse-park.com/guide/facility06

 

5. Kirifuri Highland Kisuge-daira Park (Toshigi)

ที่ราบสูงซึ่งมีพื้นที่แผ่กว้างอยู่ในระดับความสูงระหว่าง 1,300 – 1,600 เมตร ในจังหวัด Toshigi แห่งนี้เป็นสถานที่ชมดอกไม้ที่มีถึงกว่า 100 ชนิด ทั้งยังสามารถชมความสวยงามของทุ่งดอกเดย์ลิลลี่ได้ในช่วงต้นฤดูร้อนด้วย ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมจะมีหมอกมากและเป็นช่วงเวลาที่เกิดทะเลเมฆค่ะ ไฮไลต์ก็คือภาพความเขียวขจีที่ตัดกันกับทะเลเมฆสีขาวบนพื้นฟ้าได้อย่างลงตัว หากได้ขึ้นไปชมความงามของทะเลเมฆที่กระจายตัวกว้างเป็นไมล์ๆ แล้วล่ะก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆไม่มีผิดเลยค่ะ ยิ่งเวลาที่แสงอาทิตย์สาดส่องขึ้นมาเหนือเมฆขาวก็จะยิ่งเห็นเป็นความงามที่ติดตาตรึงใจมิรู้ลืม

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ Kirifuri Highland Kisuge-daira Park ดูที่นี่ http://www.kirifuri-kogen.jp/english/index.html

 

อ้อ สถานที่ที่ชมทะเลเมฆได้มักจะมีอากาศเย็นนะคะ ถ้าเพื่อนๆ จะไปเที่ยวกันล่ะก็ อย่าลืมติดเสื้อกันหนาวไปด้วยนะคะ จะได้ชมทะเลเมฆกันอย่างมีความสุข ไม่ต้องระวังเป็นหวัดไงคะ 🙂

 

แหล่งที่มาเรื่องและภาพ : wow-j

FOLLOW US ON
FACEBOOK