จังหวัดนางาซากิ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคคิวชู เป็นเมืองอันทรงเสน่ห์เรื่องอาคารบ้านเรือน และวัฒนธรรมที่มีกลิ่นอายของต่างประเทศทั้งยุโรปและจีน มาผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่นอย่างลงตัว ทั้งสวยและวิธีการไปก็ไม่ยุ่งยาก อาหารการกินก็ดีมีหลากหลายมาก แต่ครั้งนี้เราจะพูดถึงจุดเด่นของเมืองที่ควรลองแวะไป และขนมที่น่าลองไปชิมกันค่ะ
1. Ōura Church
ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิก ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นกันในญี่ปุ่น สร้างขึ้นโดยมิชชันนารีชาวฝรั่งเศส เพื่อชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในนางาซากิ เมื่อปี 1865 เพื่อเป็นเกียรติให้กับนักบุญทั้ง 26 คน ที่ถูกลงโทษโดยคำสั่งของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ จึงมีชื่อทางการว่า “โบสถ์ 26 นักบุญของญี่ปุ่น” ภายในบริเวณมีปฏิมากรรมนักบวชถูกตรึงกางเขน และภาพแกะสลักหินการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น เข้าไปภายในโบสต์มีภาพกระจกสีที่สวยงามอยู่ตรงกลาง
2. Nagasaki Peace Park
สวนสันติภาพนางาซากิถูกจัดสร้างขึ้น เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณู ที่ชื่อว่า Fat man เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ด้านหน้าสวนมีน้ำพุแห่งสันติภาพ เป็นสัญลักษณ์ถึงชาวเมืองนางาซากิที่ถูกความร้อน และสารเคมีจากระเบิดเผาไหม้ จุดเด่นของที่นี้ คือรูปปั้นเสรีภาพ ที่ตั้งอยู่ในลักษณะท่านั่ง ยกมือขวา หมายถึงระเบิด มือซ้ายยกขนานกับพื้นหมายถึงเสรีภาพ และสีหน้าที่กำลังสวดภาวนาให้กับผู้ที่เป็นเหยื่อจากการถูกระเบิด
3. ขนมคัสเทลล่า
ขนมเค้กเนื้อสปันจ์สีน้ำตาลเข้ม ฟูๆ นุ่มๆ ขึ้นชื่อแสนอร่อยของนางาซากิ ชาวนางาซากิได้รับอิทธิพลการทำ Castella มาจากเหล่าพ่อค้าชาวโปรตุเกส เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นผ่านเมืองท่านางาซากิในศตวรรษที่ 16 โดยในภาษาโปรตุกิสจะเรียกขนมชนิดนี้ว่า “Pão de Castela” ซึ่งหมายถึง “ขนมปังจากคัสทิล” ปัจจุบันก็มีการปรับสูตรมากมายหลายแบบ เหมาะจะซื้อเป็นของฝากอีกด้วย
4.ทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากภูเขาอินาซะ
ภูเขาอินาซะ เป็นภูเขาสูง 333 เมตร ที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองนางาซากิ ที่จุดชมวิวสูงสุดของภูเขาจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามของเมือง และวิวตอนกลางคืนก็งดงามจนติด 1 ใน 3 จุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วย อีก 2 แห่งคือ ภูเขาฮาโกดาเตะ จ.ฮอกไกโดและเทือกเขามายา จ.เฮียวโงะ แสงไฟในยามค่ำคืนเมื่อมองจากยอดเขานี้สวยงามมาก เป็นที่รู้จักกันในชื่อ“Ten Million Dollar Night View”
แหล่งที่มาข้อมูล : https://allabout-japan.com/en/article/6324/