เริ่มแล้วค่ะ สงครามซูชิประจำปี 2018 กับ 10 ร้านซูชิในโตเกียวที่ห้ามพลาด!

ร้านไหนจะชนะในสมรภูมิครั้งนี้ คุณเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน!

และนี่คือ  10 ร้านดังที่เราอยากแนะนำให้ลงสนามท้าดวลเพื่อคุณค่ะ

 

1. Ogi (Hatchobori)

ความพิเศษของร้านนี้อยู่ที่การใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงที่เจ้าของร้านไปเลือกซื้ออย่างพิถีพิถันด้วยตัวเองที่ตลาดทุกเช้า ราคาซูชิจะเริ่มต้นที่คำละ 50 เยน (15 บาท) ส่วนอาหารกินเล่นหรือเครื่องเคียงต่าง ๆ จะเริ่มต้นที่ 200 เยน (60 บาท) ทางร้านจัดเมนูซูชิเป็นเซ็ตให้เลือกสั่งได้หลากหลาย เช่น เซ็ต Edo ซึ่งเป็นซูชิรวม 8 คำ ราคา 1,000 เยน (296 บาท ไม่รวมภาษี) แล้วก็ยังมี Kaisen-don หรือข้าวหน้าปลาดิบรวม ราคา 850 เยน (252 บาท รวมภาษี) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมค่ะ

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/wPmoPScvUT62

 

2. Kanda Edogin Main Shop (Kudanshita)

ร้านซูชิชื่อดังแห่งนี้ก่อตั้งมาร่วม 60 ปีแล้วค่ะ ทางร้านจะคำนึงถึงรสชาติเป็นอันดับแรก วัตถุดิบที่เป็นอาหารทะเลจะถูกปรุงและเสิร์ฟในวันเดียวกับที่ได้มาเพื่อความสดใหม่ ข้าวซูชิใช้ข้าวจากจังหวัดนีงาตะผสมกับน้ำส้มสายชูซึ่งหมักจากข้าวผสมกับตะกอนละเอียดที่เหลืออยู่ในก้นถังบ่มสาเก แล้วแต่งรสด้วยสาหร่ายคอมบุกับน้ำตาล รสชาติของซูชิที่เสิร์ฟในร้านจึงไม่เปลี่ยนไปจากตอนที่เปิดร้านเลยค่ะ เมนูแนะนำก็เช่น ชุด Ume Nigiri เป็นนิงิริซูชิแบบดั้งเดิม มี 8 คำ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวห่อสาหร่าย ราคา 1,000 เยน (296 บาท ไม่รวมภาษี) และชุด Shun no Osusume Nigiri Toku ที่มีซูชิรวม 12 คำ ราคา 2,800 เยน (829 บาท ไม่รวมภาษี) ร้านนี้มีเมนูภาษาอังกฤษให้ด้วยค่ะ

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/WvBk8bXMDW32

 

3. Tenzushi Shinbashi Shop (Shinbashi)

เชฟของร้านนี้บ่มเพาะฝีมือการทำซูชิมากว่า 20 ปี วัตถุดิบที่ใช้ เลือกสรรมาเป็นอย่างดี ในบางฤดูกาลเราจะได้กินปลาทูน่าจากอาโอโมริและฮอกไกโด นอกจากนั้นทางร้านก็ยังใช้วาซาบิที่มีกลิ่นหอมจากจังหวัดชิซุโอะกะซึ่งมีรสอร่อยแทรกอยู่ในความเผ็ดอย่างลงตัว ใช้ข้าวจากเมืองอุโอะนุมะ จังหวัดนีงาตะ และสาหร่ายที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทะเลอาริอาเกะด้วยค่ะ ส่วนเครื่องดื่มที่ทางร้านเสิร์ฟ นอกจากสาเกที่คัดสรรอย่างดีจากทั่วประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีไวน์กับแชมเปญให้เลือกด้วย เมนูที่แนะนำก็คือ Omakase Nigiri Course เป็นคอร์สแบบ Chef’s choice ราคา 9,800 เยน (2,900 บาท) ต่อคน (ไม่รวมภาษี)

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/YnYMGz9hkMp

 

4. Ichibachi (Ginza)

ที่ร้านนี้คุณจะได้ลิ้มลองวัตถุดิบคุณภาพดีที่ส่งตรงมาจากสถานที่หลากหลายทั่วญี่ปุ่น อาหารทะเลที่เสิร์ฟ เลือกเฉพาะที่จับมาจากทะเลมากกว่าสั่งมาจากฟาร์มเพาะเลี้ยง ทั้งปลาทูน่าครีบน้ำเงิน และปู ร้านนี้เสิร์ฟซูชิให้รับประทานคู่กับเกลือนานาชนิดจากหลายแหล่งทั่วประเทศด้วยค่ะ นอกจากซูชิแล้วก็มีอาหารชนิดอื่น ๆ ให้ได้ลองชิมกันด้วย อย่างเช่น เนื้อวากิวคุณภาพระดับ A5 ย่างบน binchotan (ถ่านคุณภาพสูงชนิดหนึ่ง) เป็นต้นค่ะ เมนูแนะนำก็คือ Yume เป็นเซตซูชิรวมจำนวน 8 คำ ราคา 3,500 เยน (1,036 บาท ไม่รวมภาษี)

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/GK991k8srP32

 

5. Sushi Aoi (Nishi-Azabu)

ร้านนี้มีชื่อเสียงว่าเป็นร้านที่ให้ลูกค้าได้พักผ่อนคลายจากเมืองหลวงที่สับสนวุ่นวาย เพราะร้านนี้ตั้งอยู่ชานเมืองโตเกียวในเขตที่เรียกว่า นิชิ-อาซาบุค่ะ เชฟของร้านได้รับการฝึกฝนทักษะฝีมือมาจากร้านซูชิระดับสูงชื่อ Kyubey วัตถุดิบที่เป็นลายเซ็นของร้านคือปลาทูน่าครีบสีน้ำเงินและไข่หอยเม่นรสอร่อยจากอาโอโมริและฮอกไกโด ทางร้านยังเสิร์ฟเครื่องดื่มที่เข้ากันดีกับซูชิทั้งสาเก โชจู ไวน์และแชมเปญด้วยค่ะ เมนูแนะนำคือ Omakase Nigiri Course ราคา 12,000 เยนต่อคน (ไม่รวมภาษี)

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/p93VDDY1YsF2

 

6. Tsukiji Edogin (Tsukiji)

ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1924 วัตถุดิบที่ใช้เป็นของสดใหม่ซื้อจากตลาดปลาทุกเช้า ทูน่าครีบน้ำเงินที่ทางร้านเลือกใช้ เป็นปลาที่จับมาจากทะเล ความภาคภูมิใจของร้าน คือสามารถทำซูชิที่มีขนาดของข้าวแบบพอดีคำได้สมดุลพอดีกับหน้าซูชิซึ่งมีขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ข้าวซูชิของร้านจะใช้น้ำส้มสายชูซึ่งหมักจากข้าวที่มีสีแดง เป็นน้ำส้มที่ผ่านการหมักบ่มมาเป็นเวลานาน มีสีอ่อนและรสนุ่มนวล กลมกล่อมถึงรสชาติ เมนูแนะนำคือ Omakase 12-kan makimono 1-pon เป็นนิงิริซูชิรวม 12 คำเสิร์ฟพร้อมข้าวห่อสาหร่าย ราคา 4,550 เยน (รวมภาษีแล้ว)

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/Cn7uQmK5kA72

 

7. Ibuki Tokyo Station TEKKO avenue (Tokyo Station)

ตั้งอยู่ติดสถานีโตเกียวเลยค่ะ เป็นร้านที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แนวไม้ที่ให้ความรู้สึกสบาย ๆ ทำให้เมื่อลูกค้าเข้าร้านแล้วได้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ทางร้านคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่จากทั่วประเทศญี่ปุ่นโดยผสมผสานวิธีปรุงแบบดั้งเดิมเข้ากับไอเดียแนวใหม่ ๆ ซูชิของร้านนี้ไม่ได้กินคู่กับซอสโชยุเพียงอย่างเดียว แต่มีการเสิร์ฟคู่กับเกลือเม็ดและ Kabosu ซึ่งเป็นผลไม้รสเปรี้ยวชนิดหนึ่ง เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับอาหารที่กินด้วยค่ะ เมนูแนะนำคือ Omakase Nigiri Moriawase เป็นเซ็ตซูชิรวม 7 คำ ราคา 2,480 เยน (734 บาท ไม่รวมภาษี)

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/ZG5yYKbLANB2

 

8. Banya Ginza Main Shop (Ginza)

แม้จะอยู่ในย่านกินซ่าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านที่มีแต่ร้านหรู ๆ แพง ๆ แต่ร้านซูชิร้านนี้กลับมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นร้านที่ราคาสมเหตุสมผล ทางร้านบริการทั้งอาหารทะเลชนิดธรรมดาที่คนนิยมกินกันและชนิดที่หากินได้ยากในราคาที่จับต้องได้ เมนูที่มีชื่อของร้านก็คือ Hon-maguro Goshu Moriawase ซึ่งเป็นจานที่ให้ลูกค้าได้ลิ้มรสทูน่าครีบสีน้ำเงินส่วนต่าง ๆ (5 cut) ในราคาพิเศษ เพียง 2,980 เยน (882 บาท) เท่านั้น (รวมภาษีแล้ว) ราคานี้ต่ำกว่าร้านอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่ตั้งราคาสำหรับเมนูนี้ไว้ที่ 7,000-8,000 เยน (2,072 – 2,368 บาท) ค่ะ และอีกเมนูแนะนำ คือ Noko Zeitaku Maki Uni x Toro x Caviar เป็นทูน่าโรล ท้อปปิ้งด้วยไข่หอยเม่นและคาเวียร์ ราคา 980 เยน (290 บาท) ต่อคำ (ราคาไม่รวมภาษี) เมนูนี้ทำออกมาจำนวนจำกัดในแต่ละวันนะคะ

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/RhNMJ6LM5UF2

 

9. Janoichi Main Shop (Nihonbashi)

ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1889 เป็นร้านดังที่เป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนมาก ทางร้านยังคงรักษาซูชิแบบโตเกียวตำรับดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี ดังที่เห็นได้จากเมนู Anago ซึ่งเป็นปลาไหลต้มในซอสสูตรพิเศษที่ตกทอดกันมาจากรุ่นต่อรุ่น นอกจากนี้ก็ยังมีสาเกเสิร์ฟมากกว่า 30 ชนิดที่ช่วยชูรสชาติของซูชิได้ดีเป็นพิเศษ และทางร้านยังมีสาเกชนิดที่หาดื่มได้ยากให้บริการด้วยนะคะ เมนูแนะนำคือ Counter Omakase Course (Kaede) เป็นคอร์สซูชิราคา 5,000 เยนต่อคน (ไม่รวมภาษี)

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/UgsEBBtBWJQ2

 

10. Tatsumi (Roppongi)

สามารถเดินจากสถานีรปปงงิไปถึงที่ร้านได้โดยใช้เวลาเพียงนิดเดียวเท่านั้น ทางร้านจะเสิร์ฟวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ซื้อตรงจากตลาดทุกเช้า ข้าวซูชิใช้ข้าวโคชิ-ฮิคาริ จากจังหวัดนีงาตะ ปั้นโดยใช้น้ำหนักมือที่สมบูรณ์แบบ เพื่อให้แน่ใจว่าข้าวจะไม่นิ่มหรือแข็งเกินไป ทำให้ได้ขนาดกำลังดี เมล็ดข้าวแต่ละเม็ดได้รสชาติที่เข้มข้น ร้านนี้ให้บริการเฉพาะคอร์สแบบ Omakase เป็น Chef’s choice เท่านั้นค่ะ แต่ทำให้ลูกค้าที่มาที่ร้านมั่นใจได้ว่าจะได้ชิมวัตถุดิบที่มีรสชาติดีที่สุดและคุณภาพดีที่สุดของวันนั้นเลยค่ะ เมนูแนะนำคือ Tokujo Omakase Nigiri Course ราคา 16,000 เยน (4,736 บาท) ต่อคน (ไม่รวมภาษี)

แผนที่ร้าน (google map): https://goo.gl/maps/aho82MT12pn

 

ร้านที่เราคัดสรรมานี้เด่นทางด้านการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีทั้งนั้น แต่ร้านไหนจะถูกใจเพื่อน ๆ จนกลายเป็นผู้ชนะในสงครามซูชิครั้งนี้ได้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับคุณผู้อ่านจะเลือกแล้วล่ะค่ะ ไปถึงโตเกียวเมื่อไหร่ อย่าลืมไปชิมกันนะคะ

 

แหล่งที่มาของภาพและข้อมูล : wow-j

FOLLOW US ON
FACEBOOK