เมื่อพูดถึงร้านกาแฟ มั่นใจว่าคนส่วนใหญ่จะต้องนึกถึง “Starbucks” เป็นอันดับต้น ๆ เพราะเป็นแฟรนไชส์ที่มีอยู่ทั่วโลก และไม่ได้มีดีแค่การขายกาแฟ แต่ยังโดดเด่นในด้านการมอบประสบการณ์ให้แก่ลูกค้า สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น เปิดสาขาต่างประเทศที่โตเกียวเป็นแห่งแรกในปี 1995 และมีการขยายสาขาออกไปเรื่อย ๆ จนปัจจุบันได้ทำการเปิด Starbucks Reserve Roastery สุดหรูแห่งแรกในญี่ปุ่น ตรงข้ามแม่น้ำ Meguro ภายใต้อาคารขนาด 4 ชั้นที่ถูกออกแบบและตกแต่งด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของสตาร์บัคส์บนพื้นที่กว่า 32,000 ตารางเมตร นอกจากการขยายสาขาแล้ว Starbucks ยังได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาคุณภาพ เพื่อการบริการที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคนี้ให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ล่าสุดร้านสตาร์บัคส์ในโตเกียวจำนวน 56 สาขาได้เริ่มให้บริการสั่งและจ่ายเงินล่วงหน้าผ่านทางแอปพลิเคชั่น ในระบบใหม่ที่มีชื่อว่า Starbucks TO GO บริการนี้สามารถใช้กับเครื่องดื่มได้ประมาณ 40 ชนิด
โดยจะเป็นระบบ “Mobile Order & Pay” คือการสั่งซื้อเครื่องดื่มและชำระเงินล่วงหน้าผ่านมือถือ จากนั้นสามารถไปรับเครื่องดื่มได้ที่ร้านและสาขาที่ได้เลือกไว้ ถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมจาก “STARBUCKS REWARDS™” ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องเสียเวลามาต่อคิว และสามารถปรับลดระดับเพิ่มไซรัปหรือนมได้ จากสถิติล่าสุด สตาร์บัคส์มีร้านค้า 1,434 แห่ง (เก็บข้อมูล ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2019) ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีผู้ใช้บริการมากกว่า 5 ล้านคนต่อสัปดาห์ กล่าวได้ว่า 1 ใน 10 คนที่ใช้บริการของ Starbucks กำลังประสบปัญหากับการให้บริการและการต่อคิวที่ยาวนาน ทำให้ทางร้านตัดสินใจที่จะเริ่มให้มีการสั่งซื้อและชำระเงินทางมือถือ โดยมีแผนขยายการให้บริการทั่วประเทศภายในปี 2020
แหล่งที่มา : itmedia, japantimes