นวัตกรรมใหม่ แท็กซี่ญี่ปุ่นใช้ AI สแกนใบหน้าเพื่อเสิร์ฟโฆษณาที่ใช่

 

ถ้าหากว่าปีนี้ใครลองขึ้นรถแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่น คุณจะได้พบกับบริการสแกนใบหน้าที่เบาะหลัง ซึ่งสามารถจำแนก เพศ อายุ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของผู้ใช้บริการแท็กซี่ได้ หลังจากที่ทำการสแกนใบหน้าเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะคัดเลือกโฆษณาที่ตรงกับความต้องการของคุณ ส่งตรงไปยังสมาร์ทโฟนในทันที

โดยกระแสการจดจำใบหน้าบนรถแท็กซี่ ได้กลายเป็นประเด็นใหม่บน Twitter หลังจากที่ Rosa Golijan วิศวกรสาวจาก Google รีวิวว่า ภาพถ่ายของจอแทปเล็ตที่เบาะหลังของแท็กซี่ในญี่ปุ่นว่า “estimate gender in order to deliver the most optimized content” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “ใช้แยกเพศเพื่อส่งเนื้อหาที่เหมาะสมที่สุดมาให้”

https://twitter.com/rosa/status/1119736583521853441?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1119736583521853441%7Ctwgr%5E363937393b70726f64756374696f6e&ref_url=https%3A%2F%2Ffuturism.com%2Fjapanese-taxis-facial-recognition-target-ads-riders

 

หลังจากนั้น Golijan ก็ทวิตรายละเอียดต่าง ๆ ออกมาเพิ่มเติม ว่าระบบรวมรวมข้อมูลนั้นทำงานอย่างไร ตลอดจนการใช้ QR code ที่จะพาคุณไปยังเว็บไซต์ธุรกิจ e-commerce ในญี่ปุ่น ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท DeNA โดยมีจะเชื่อมไปยังหน้า “Trust & Safety” หรือการยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลและความปลอดภัยในการใช้งาน เพื่อรับบริการ “Premium Taxi Vision” ซึ่งจะช่วยเปิดประสบการณ์เหนือระดับสำหรับการใช้บริการรถแท็กซี่จากทางบริษัทนั่นเอง

 

Premium Taxi Vision ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมันทำให้การนั่งแท็กซี่นั้นสะดวกสบายกว่าเดิมมาก เนื่องจากบนเว็บของ DeNA นั้นมีการบริการแปลภาษาญี่ปุ่นให้เป็นภาษาอื่น ๆ ผ่าน Google Translate จึงหมดปัญหาการใช้ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ แถมยังมีการเสนอบริการอื่น ๆ ตามเพศและอายุของผู้ใช้งานให้อีกด้วย

 

นอกจากนี้ บนเว็บไซต์ของ DeNA ยังมีวิดีโอแนะนำให้ผู้โดยสารลงทะเบียนผู้ใช้งาน ทั้งด้านอายุ เพศ และจำนวนผู้โดยสารที่ขึ้นรถมาด้วย จากนั้นก็จะส่งข้อมูลไปยังเอเจนซี่โฆษณาที่มีชื่อว่า Geniee, Inc หลังจากนั้นโฆษณาที่เหมาะสมก็จะปรากฏขึ้นมาแล้วล่ะ

 

อย่างไรก็ตาม Geniee ไม่สามารถเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานแท็กซี่ได้โดยตรง อย่างกรณีของ Golijan ที่ได้ไปลองใช้นั้น เจ้าเครื่องดังกล่าวก็ไม่รู้เลยว่า ในรถแท็กซี่คันนั้น มีผู้หญิงนั่งอยู่ด้วย แต่ DeNA อ้างว่า การที่ระบบจดจำใบหน้าจะใช้งานได้นั้น ตัวซอร์ฟแวร์ต้องทำงานร่วมกับแทปเล็ต ดังนั้น ถ้าหน้าหลุดระยะโฟกัสกล้อง ระบบก็จะลบข้อมูลออกทันที

 

 

ถึงแม้ว่าระบบการทำงานจะยังไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ แต่ว่านวัตกรรมโฆษณาบนแท็กซี่เองก็เป็นอะไรที่ยังใหม่ และมีความน่าสนใจอยู่มาก และมันคงจะดีถ้ามีรายการอะไรที่เหมาะสมกับผู้ใช้บริการมาให้ผู้โดยสารใช้งานเพิ่มเติมระหว่างเดินทาง คิด ๆ ดูแล้ว เราว่าแท็กซี่ในญี่ปุ่น อาจจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเบาะที่นั่งบนเครื่องบินมาอีกทีก็ได้ จากนี้ก็คงต้องติดตามกันต่อไป ว่าโครงการนี้ก็ถูกพับเก็บลงกรุ หรือว่าจะได้รับการต่อยอดต่อไปในอนาคต

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง: https://twitter.com/rosahttps://futurism.comhttps://www.japan-guide.com

FOLLOW US ON
FACEBOOK